กระดานสุขภาพ

อารการปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะบ่อยคะ
Anonymous

27 มีนาคม 2561 11:12:52 #1

เมื่อวันที่ 18-19 หนูปัสสาวะแล้วรู้สึกแสบร้อน เลยคิดว่าคงเป็นปัสสาวะอักเสบเพราะชอบกลั้นปัสสาวะ หนูเลยดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยในเรื่องนี้ แต่วันที่ 20-21 หนูปัสสาวะบ่อยมากคะ ไม่เป็นอันทำงาน กลางคืนก็ชอบตื่นมาฉี่ ในเย็นวันที่ 21 เลยไปสอบถามเภสัชแล้วแจ้งอาการไป พี่เขาจัดยา ยานอร์ฟลอกซาซิน 400 ให้กินหลังอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ด รวม 10 เม็ด กับยาแก้ฉี่บ่อย ให้กินครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหาร เช้ากลางวันเย็น ประมาณ 10 กว่าเม็ด แล้วเมื่อวันที่ 26 ตอนเช้า ได้กินยานอร์ฟลอกซาซิน เม็ดสุดท้ายไป มาวันนี้ วันที่ 27 หนูยังรู้สึกปัสสาวะบ่อย เหมือนรู้สึกปวดปัสสาวะที่ปลายท่าปัสสาวะตลอดเวลา ปวดเหมือนเวลาเราปวดปัสสาวะนะคะ หนูต้องรอดูอาการอีกสักพักหรือไปพบแพทย์เลยคะ และหนูมีตกขาวสีขาวออกเหลืองอ่อนนิดๆ มาน้อย แต่มาทุกวันไม่หายสักที มีอาการคันในบางครั้งแต่ไม่บ่อยด้วยคะ
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.14 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

27 มีนาคม 2561 11:17:31 #2

หนูเคยไปหาหมอเรื่องตกขาวแล้วด้วยคะ หมอให้ยาฆ่าเชื้อรา มากินกับมาทาภายนอก แต่ก็ยังมีตกขาวมาทุกวัน แต่มาน้อย คือหนูมักจะส่องดูภายในปากช่องคลอดทุกวันเลยเห็นตกขาวที่มันไม่หายสักที แต่มาไม่เยอะ ไม่เลอะกางเกงใน จะมีอาการคันเป็นบางครั้งคะ
Anonymous

27 มีนาคม 2561 11:20:42 #3

ประจำเดือนมาล่าสุด วันที่9-12 คะ
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 มีนาคม 2561 10:07:27 #4

จากอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อยและแสบขัดร่วมด้วยนั้น เป็นอาการของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนะครับ ซึ่งอาจเกิดได้หากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการถูหรือสัมผัสบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การล้างมือ และ ทำความสะอาดอวัยวะเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิงก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดอาการนี้ได้ หรือ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะก็ได้ หรือ เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอดแล้วติดไปทางท่อทางเดินปัสสาวะก็ได้ครับ ส่วนในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ แต่หากเป็นเพียงมูกเล็กน้อย ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็อาจเป็นเพียงสารคัดหลังที่มีมากขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์นะครับ หากอาการนี้ยังมีอยู่หรือเป็นบ่อยๆ อาจทำให้มีการติดเชื้อที่ท่อและกรวยไตได้ครับ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะและรักษาให้ถูกต้องนะครับ การใช้ยาปฎิชีวนะนั้น อาจต้องจำเพาะกับการติดเชื้อครับ ปกติแล้วหากวินิจฉัยถูกต้องแล้วหลังได้ยาปฎิชีวนะที่เหมาะสม ส่วนใหญ่แล้วอาการจะดีขึ้นใน 2-3 วันครับ ส่วนเรื่องตกขาวนั้น หากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ