กระดานสุขภาพ

เจ็บข้างในตรงปลายอวัยวะเพศเวลาปัสสาวะ
Pota*****9

9 มีนาคม 2561 09:10:22 #1

สวัสดีครับ ผมรบกวนสอบถามครับ คือว่า เวลาปัสสาวะไปสักแป๊บ
ก็จะเริ่มเจ็บบริเวณตรงปลายอวัยวะเพศครับมันเกิดจากอะไรบ้างครับ

เจ็บในท่อทางเดินปัสสาวะเจ็บมากเลย เหมือนน้ำปัสสาวะไปโดนตรงนั้น
พอดี มันไหลผ่านจึงทำให้เจ็บ อยู่ๆเฉยๆไม่มีอาการอะไรเจ็บเฉพาะเวลา
ปัสสาวะอย่างเดียว เจ็บที่เดียวด้วย รอบๆอวัยวะเพศไม่มีแผลไม่มีตุ่มแต่อย่างใด

ผมไม่ค่อยได้อั้นปัสสาวะด้วยและเป็นคนที่ดื่มน้ำมากอยู่แล้วและไม่ได้มีเพศสัมพันธ์
กับใครด้วย เจ็บมาประมาณ 5 วันแล้ว ไม่ดีขึ้นเลย 

เมื่อวานผมไปปรึกษาหมอ หมอบอกว่าให้ทานน้ำเยอะๆดูก่อน อาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
แค่นี้เอง ถ้าอยากจะให้ชัวร์บอกว่าให้ตรวจปัสสาวะดูก่อน แต่หมอก็ไม่ให้ตรวจ บอกแค่ว่าดื่มน้ำมากๆดู

หมอพูดแบบนี้แสดงว่าไม่น่าร้ายแรงอะไร แต่จะทำยังไงให้มันไม่เจ็บครับ 
รบกวนด้วยครับ

อายุ: 33 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

10 มีนาคม 2561 06:19:42 #2

ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น ในกรณีของคุณถ้าแน่ใจว่าใน 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ หรือมีนิ่ว หรืออาจะเกิดจากการดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ได้ แนะนำหาหมระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ