กระดานสุขภาพ

ช่วยด้วยครับมีตุ่มแดงตุ่มเดียวแรกๆคันตอนนี้ไม่ค่อยคันแล้ว
Metu*****s

17 กุมภาพันธ์ 2561 16:25:45 #1

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Metus-41807.jpg

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 กุมภาพันธ์ 2561 04:53:11 #2

  • เนื่องจากรูปที่ส่งมาไม่ค่อยชัด เห็นเป็นตุ่มแดงๆที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆหรืออาจจะเป็นตุ่มที่เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อกันได้ เช่น หิด แต่จะมีอาการคันและมีตุ่มคันตามรอบเอว ง่ามนิ้วร่วมด้วย แต่ถ้าก่อนเป็นคุณมีความเสี่ยงเช่น เที่ยวหญิงบริการ ไม่ใช้ถุงยางมีคู่นอนหลายคน ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยคือเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม
  • รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ
  • เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน
  • ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir
  • 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม
  • ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
  • แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มและพฤติกรรมทางเพศ แนะนำหาหมอครับ