กระดานสุขภาพ

สอบถามความเสี่ยง
Anonymous

6 กุมภาพันธ์ 2561 05:52:12 #1

ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วดันมีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งมาทำให้ แล้วถุงยางดันขาดขณะทำอยู่ข้างในช่องคอด ผมกลัวจะติด hiv หรือโรคอื่นๆ เท่าที่ศึกษามาจะสามารถตรวจผลได้หลังผ่านไประยะหนึ่งแต่ผมรอไม่ไหวเนื่องจากมีความกังวล ตอนนี้ผมสามารถทำอะไรได้บ้างไหมครับถ้าเกิดได้รับเชื้อเข้าไป สามารถทานยาต้านไวรัสดักไว้ก่อนได้ไหมครับ เพราะผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเชื้อหรือไม่ จึงเกิดความกังวลอย่างมากครับ เพิ่มเติมครับ มีการจูบตอนที่ผมมีแผลที่ปากตั้งแต่วันที่มีเพศสัมพันธ์หลังจากนั้นผมมีอาการป่วยไข้รุมๆเจ็บคอตั้งแต่วันนั้นจนผ่านมา4วันแล้วยังป่วยอยู่
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

6 กุมภาพันธ์ 2561 06:15:24 #2

ตอนนี้ผ่านวันที่มีเพศสัมพันธ์มา4วันแล้วครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 กุมภาพันธ์ 2561 20:28:03 #3

  • มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้
  • ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%
  • หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  • ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณถ้าคู่นอนติดเชื้อเอดส์ โอกาสที่คุณจะติดเชื้อคือ 0.05%
  • ส่วนเรื่องอาการของการติดเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง
  • 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ สำหรับยาต้านไวรัสที่กินเพื่อป้องกันหลังมีความเสี่ยงนั้น ต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันหลังมีความเสี่ยง