กระดานสุขภาพ

เป็นตุ่มที่ร่องก้น
Anonymous

4 กุมภาพันธ์ 2561 12:18:44 #1

เป็นตุ่มนูน บวม ปวด กดเจ็บ เจ็บมากขึ้นเวลาขยับหรือสัมผัสครับ กดตรงตุ่มลักษณะแข็งๆ มีหลายตุ่ม  ที่ร่องก้นด้านซ้ายครับ เป็นมาประมาณ 3 วัน ก่อนหน้านี้เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครับ ไม่ทราบว่าเป็นเริมหรือไม่ครับ หรือเป็นตุ่มอักเสบ หรืออะไรครับรบกวนด้วยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4444e-41553-1.jpeg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4444e-41553-2.jpeg

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 กุมภาพันธ์ 2561 08:27:31 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา บริเวณรอบๆทวารหนัก มีอาการบวมและมีตุ่มเล็กๆหลายตุ่ม อาจจะเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนอง ถ้าคุณเคยมีประวัติเป็นเริมหรือมีประวัติเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน มีการร่วมเพศทางทวารหนัก ไม่ใช้ถุงยางก็อาจจะเป็น 1.เริมซึ่งเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง หรือ 2. อาการเริ่มต้นของงูสวัด จะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อลึกๆบริเวณที่เป็น ต่อมาจะเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองและจะทยอยเป็นหลายกลุ่มมากขึ้นตามแนวของเส้นประสาท รักษาโดยการกินยา acyclovir ครั้งละ 800 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง ทุก 4 ชม.เป็นเวลา 7-10 วัน โรคงูสวัดนี้พบได้ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ 3. ในกรณีที่ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเกิดจากการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนัง ทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นฝี รักษาโดยการกินยาแก้อักเสบ และถ้าไม่หายก็อาจจะต้องผ่าฝีเพื่อเอาหนองออก 4. โรคอื่นๆ โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ และถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส เพราะจากการศึกษาพบว่า ชายรักร่วมเพศหรือเกย์จะมีโอกาสติดเชื้อได้สูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า สามารถใช้สิทธิประกันสังคม หรือบัตรทอง ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ