กระดานสุขภาพ

สอบถามคุณหมอหน่อยค่ะ
Anonymous

2 กุมภาพันธ์ 2561 11:35:59 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ ช่วงประมาณเดือนสค.หรือกย.ที่ผ่านมา มีการกินยาคุมฉุกเฉินค่ะ หลังจากนั้นประจำเดือนมาตรงกันตลอด คือวันที่25 แต่ช่วงเดือนธค. พอถึงวันที่25แล้วประจำเดือนไม่มา วันที่27เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์ ผลที่ออกมาเป็นขีดเดียวค่ะ หลังจากนั้นเมื่อวาน ครบ1อาทิตย์ที่ประจำเดือนไม่มา จึงซื้อที่ตรวจมาตรวจอีก ก็พบว่าเป็นขีดเดียว อยากทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรคะที่ประจำเดือนมาไม่ปกติและมีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ ( เวลามีเพศสัมพันธ์ มีการสอดใส่ก่อนบ้าง แต่ไม่เคยหลั่งใน และใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ)
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

2 กุมภาพันธ์ 2561 19:54:45 #2

ตอนนี้มีอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยแล้วก็ปวดท้องคล้ายๆจะอุจจาระแต่ไม่ออกค่ะ แต่เข้าใจว่าไม่ใช่อาการที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ใช่มั้ยคะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

4 กุมภาพันธ์ 2561 05:48:06 #3

จากประวัติที่คุณบอกมาคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดีทุกครั้ง จึงไม่ควรมีการตั้งครรภ์เพราะได้สวมใส่ถุงยางอนามัยและยังมีการหลั่งภายนอกร่วมด้วย การที่รอบเดือนของคุณมาไม่ปกติ น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่นภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ ซึ่งภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมากจนไข่ไม่สามารถตกได้ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปเปลี่ยนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน รอบเดือนจึงไม่มาตามปกติ การควบคุมรอบเดือนให้เป็นปกติจึงต้องรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนหรืออาจจะทานเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด ถ้ารอบเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากจนอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ดังนั้น จึงควรทำการรักษาดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ภาวะนี้อาจจะส่งผลทำให้มีบุตรยากได้เช่นกัน ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีภาวะนี้หรือไม่ขอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์ประเมินมดลูกและรังไข่ จะได้ทราบว่ามีความผิดปกติได้หรือไม่ และจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ ส่วนอาการปัสสาวะผิดปกติกระปริดกระปรอยและมีอาการปวดท้องน้อยอาจจะเกิดจากการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะหรือมีกระเพาะปัสสาวะอักเสบก็ได้ ถ้าไม่แน่ใจก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจปัสสาวะอีกครั้งจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป เพราะอาจจะต้องรับประทานยาปฏิชีวนะพยายามดื่มน้ำให้มาก อย่ากลั้นปัสสาวะเมื่อปวดปัสสาวะก็ให้รีบไปปัสสาวะทิ้งทันที จะช่วยป้องกันภาวะนี้ได้ค่ะ
________________________________________