กระดานสุขภาพ

หนองในเกิดขึ้นเองได้ไหม
Anonymous

25 มีนาคม 2556 14:44:57 #1

ผมเคยเป็นหนองในเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว(2551-2552)ก็มียารักษา แล้วก้ฉีดยาตามปกติแต่ก็ไม่หายขาด2-3อาทิตต่อจากนั้นก็ยังกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะว่าไปมีเพศสัมพันอีกกับคนเดิม หมอบอกให้พาคู่นอนมารักษาด้วยก็ฉีดยาและให้ยามากินจนหาย  ก็เลิกลากะแฟนคนนี้ไป  ไม่มีเพศสัมพันมาประมาน1ปีจนต้นปี2555มีความสัมพันกับแฟนสาวคนปัจจุบัน(แฟนคนนี้ยังไม่เคยมีเพศสัมพันกับชายอื่น)และตัวผมก็ไม่ได้มีคู่นอนคนอื่นนอกจากแฟนกระทั้ง2วันก่อน(23-03-56)มีอาการเจ็บตรงกลางท่อปัสวะ เหมือนกับที่เป็นเมื่อหลายปีก่อนจึงไปหาหมอวันที่24 และเล่าอาการให้หมอฟังว่ามีอากการเจ็บตรงท่อปัสว่ะและมีมูกใสเป็นสีขาวหนื่ดๆเหมือนเป็นหนองออกมาแต่ไม่เหลวคลายน้ำอสุจิที่ใกล้แห้งแบบจับตัวเป็นก้อนได้ มีกลิ่นนิดหน่อย หมอจึงให้ฉีดยาและให้ยาDOXYCYCLINE100mg.มากินและให้พาแฟนมารักษาด้วยหมอฉีดยาให้แฟน ไม่ได้ตรวจภายใน และไม่ได้ให้ยามากิน  และผมเองก็ไม่ได้ตรวจเลือดหรือตรวจปัสว่ะเพื่อหาเชื้อ อีกทั้งเมื่อ2อาทิตก่อนไปตรวจสุขภาพทั่วไปก่อนเข้าทำงานใหม่ก็ไม่พบความผิดปกติด้านกามโรค และหมอที่ตรวจผมก็ไม่ได้ให้คำตอบชัดเจนว่าเป็นหนองในหรือเปล่า

 

แล้วผมสงสัยว่าทำไมถึงเป็นได้อีกทั้งๆที่ไม่ได้มั่วผู้หญิง และแฟนผมก็ไม่ได้ไปมีอะไรกับใครนอกจากผม มีสาเหตุอื่นอีกใหม่ที่ทำให้เกิดอาการลักษณะอย่างนี้ได้อีก และอาการแบบนี้เป็นอย่างอื่นได้อีกไหมนอกจากหนองใน และแฟนผมจะเป็นอะไรหรือเปล่าเพราะแฟนบอกว่าลักษณะตกขาวที่ผิดปกติ

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 มีนาคม 2556 04:19:10 #2

อาการมีหนอง ปัสสาวะแสบ ร่วมกับการมีเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรคหรืออาจมีอาการตกขาวผิดปกติ เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน โอกาสที่ทั้ง 2 โรคจะติดต่อทางอื่นที่ไม่ใช่ทางเพศสัมพันธ์เป็นไปได้ยากมาก

ในกรณีของคุณทั้งคู่ ถ้าอยากรู้ว่าหายหรือไม่ คงต้องหาหมอเฉพาะด้านหรือหมอสูตินรีเวชตรวจภายในแฟนด้วยครับ

 

นพ. อนุพงศ์

Anonymous

26 มีนาคม 2556 06:32:36 #3

คือที่บอกว่า ได้รับเชื้อใหม่ กับร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเชื้อนี้สามารถเกิดขึ้นเองได้ใช่ไหมเพราะผมและเค้าไม่ได้มีใคร ช่วยตอบหน่อยครับผมและแฟนไม่ค่อยสบายใจ และมีสาเหตูอื่นอีกไหมที่ทำให้เกิดโรคนี้ทั้งๆที่เรามีคู่นอนเพียงคนเดี่ยว ขอบคุณครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 มีนาคม 2556 13:52:26 #4

โอกาสที่จะเป็นหนองในและหนองในเทียมโดยไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นไปได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามในการตรวจวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการส่องดูเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือเพาะเชื้อ จึงจะยืนยีนได้ว่าเป็นหนองในหรือหนองเทียม ในกรณีของคุณ ไม่ทราบว่ามีการตรวจหรือเพาะเชื้อหรือไม่ ถ้าไม่มี อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น อักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทั่วๆไป

 

นพ. อนุพงศ์

Jets*****g

23 ตุลาคม 2557 22:14:24 #5

คือ ขอโทษนะครับคุณผม ถามหน่อยนะครับว่า วันนี้ผมพึ่งไปมีเพศสัมพันธ์ กับผู้หญิงที่เป็นประจำเดือน โดยที่ไม่ใส่ถุงยางอนามัย เเต่ผู้หญิงคนนี้ยังไม่เคยเป็นหนองใน อยากทราบว่าผมจะมีโอกาศ เป็นหนองในไหมครับ ถ้าคุณหมอเห็นเเล้วกรุณาบอกผมด้วยผม คิดมากเลยครับ