กระดานสุขภาพ

โรคผิวหนังอักเสบ ในอวัยเพศหญิง
Anonymous

27 มกราคม 2561 15:18:03 #1

โรคผิวหนังอักเสบในอวัยเพศของผู้หญิงมีใหมค่ะ ถ้ามีแล้วอาการเป็นอย่างไรค่ะ คัน แสบมีผื่นแดงๆๆตรงอวัยเพศ ใช้หรือเปล่าค่ะ แล้วควรรักษาอย่างไรดีค่ะ (ถ้าเป็นไม่แน่ใจว่าเป็นนะค่ะ) ไม่กล้าไปหาหมอค่ะ ถ้าเป็นแล้วรักษาได้ใหมค่ะ ร้ายแรงหรือเปล่าค่ะ รบกวรด้วยค่ะ
อายุ: 39 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 145ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.06 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

1 กุมภาพันธ์ 2561 17:59:10 #2

หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ หากมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนและมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ อาจจะเป็นได้หลากหลายครับ ได้ตั้งแต่การอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันที่คล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ หรืออาจเป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่น เริม แผลริมอ่อนหรือริมแข็งก็ได้ครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้มาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคครับ ส่วนหากเป็นสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศหรือช่องคลอดนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ