กระดานสุขภาพ

กำจัดขนบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ เสี่ยงต่อการเป้นโรคหรือติดเชื้ออะไรบ้าง?
Anonymous

29 ธันวาคม 2560 09:09:38 #1

สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคนที่ชอบกำจัดขนบริเวณอวัยวะเพศมากค่ะเพราะมันน่ารำคาญใจ แรกเริ่มเลยเคยแต่ตัดเล็ม แล้วจากนั้นก็ลองแว็กซ์ด้วยตนเองดูค่ะ ตอนแว็กซ์ขนแรกๆไม่มีอาการใดๆเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อขนใหม่เริ่มขึ้นมาดิฉันก็มีอาการหงุดหงิด รำคาญ เลยพยายามถอนขนที่ขึ้นใหม่ออก ประจำ จนติดเป็นนิสัยค่ะ ถ้าขึ้นมาสักนิดเดียวก็จะใช้แหนบถอนตลอด 

จนเมื่อไม่นานมานี้ ผิวหนังบริเวณที่ถอนมีลักษณะบวมๆ เป็นขนคุดค่ะ แต่ดิฉันก็พยายามถอนมันออกไม่ให้มันคุดอยู่ใต้ผิวหนังค่ะ แต่บางบริเวณที่มันเป็นขนคุดมันก็เกิดเป็นสิว เป็นหัวน้ำเหลืองขึ้นมาค่ะ คล้ายๆฝี บวมใหญ่ ประมาณ 1 เซนติเมตร ดิฉันก็ใช้มือที่ล้างน้ำสะอาดแล้วบีบ เหมือนบีสิวทั่วไปจนหาย แต่มันก็ขึ้นมาใหม่อีกที่ค่ะ 

อาการที่เป็นตอนนี้ก้จะมีดังนี้ค่ะ

1.คันมาก บริเวณแคมใหญ่ และเนินหัวหน่าว

2.บริเวณแคมใหญ่มีลักษณะแห้งกร้าน และเป็นขุยๆ แต่ไม่แสบ

3.เกิดหัวสิว(เป็นน้ำเหลือง) บริเวณรูขุมขน อักเสบและบวม

อยากทราบว่า อาการแบบนี้ต้องใช้ยาอะไรรักษาไหมคะ? เสี่ยงที่จะเป้นพวกเชื้อราหรืออะไรแบบนั้นไหม?

หรือพยายามไม่เกาและหยุดกำจัดขน ก็จะสามารถหายเองได้? (พยายามจะเลิกถอนขนอยู่ค่ะ แต่ประจำเดือนมาช่วงนั้น มันเลยรู้สึกอับและคันหนักไปอีก เลยจำเป็นต้องถอนเพื่อให้รู้สึกไม่อับชื้นค่ะ) T-T

 

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

29 ธันวาคม 2560 09:43:13 #2

เรียนคุณ cf453

ก่อนอื่น ทางเว็บฯขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไว้ใจเว็บ haamor.com

-เพื่อให้แพทย์ผู้ตอบคำถาม สามารถให้คำแนะนำในเบื้องต้นที่เหมาะสมกับคุณได้ ขอความกรุณาคุณช่วย "ถ่ายรูปเฉพาะตำแหน่งอาการ/รอยโรค/ผื่น ของคุณ แล้วส่งมาด้วยกับคำถาม

-รูปที่ส่งมา ต้องไม่สามารถระบุตัวคุณได้(เป็นจรรยาบรรณ์แพทย์) คือ ขอคุณช่วยปกปิดใบหน้า แต่ถ้ารอยโรคอยู่บนใบหน้า ให้ปกปิดตาทั้ง๒ ข้าง ถ้า รอยโรคที่ตา ให้ปกปิดตาข้างที่ปกติ (คือถ่ายรูปเฉพาะตาข้างที่มีอาการ)

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์
บรรณาธิการฝ่ายแพทย์

Anonymous

29 ธันวาคม 2560 11:04:17 #3

ไม่ทราบว่าดิฉันจะสามารถส่งรูปภาพให้คุณหมอได้ทางไหนบ้างคะ? (ดิฉันส่งรูปภาพในคอมเม้นไม่เป็นค่ะ T-T)

Haamor Admin

(Admin)

29 ธันวาคม 2560 18:52:52 #4

วิธีการอัพโหลดรูปขึ้นเว็บเราสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

1.นำรูปของคุณไปฝากไว้ที่เว็บฝากรูป เช่น http://upic.me (หรือเว็บฝากรูปอื่นๆ)

2.เอาลิ้งก์หรือ URL ที่ได้มาแปะในกระทู้ (กรณีที่คุณไม่สะดวกจะเปิดเผยรูป) หรือ จะใช้ปุ่ม Insert/Edit Image (ที่เป็นรูปต้นไม้ด้านล่าง) แล้วเอาลิ้งก์หรือ URL แปะเข้าไปในช่อง Image URL ก็ได้คะ

หากคุณทำตามวิธีที่ 1 และ 2 แล้วยังไม่สามารถลงได้ สามารถส่งรูปของคุณมาได้ที่ info@haamor.com ค่ะ โดยส่งลิงค์กระทู้ หรือชื่อกระทู้มาด้วยนะคะ (ช่วยแจ้งในกระทู้ด้วยนะคะว่าส่งรูปมาแล้ว)

ปล. ทางเรามีเพจ Facebook นะคะ หากท่านในมีปัญหา ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อนะค่ะ

https://www.facebook.com/haamor/

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

14 มกราคม 2561 09:33:01 #5

หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ ซึ่งหากไม่เคยมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย หรือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่การอักเสบบริเวณนี้ มักเกิดจากการอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันครับ อาจคล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ ในกรณีนี้น่าจะเกิดจาการอักเสบของต่อมขนหรือรูขุมขนนะครับ การเกาหรือมีการโกนบ่อยๆจะทำให้ติดเชื้อซ้ำเข้าไปได้ง่ายครับ ซึ่งจากที่กล่าวมานั้น หากมีผื่นนั้นมีอาการคันมากและเป็นขุยๆ รอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน น่าจะเป็นการติดเชื้อราที่ผิวหนังนะครับ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทาครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ สาเหตุอื่นๆที่อาจเป็นไปได้ได้แก่ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ ระหว่างนี้ก็ควรดูแลรักษาความสะอาดตามปกติครับ ไม่ให้อับชื้น เป็นต้นครับ