กระดานสุขภาพ

จุดแดงที่องคชาติ
Anonymous

8 พฤศจิกายน 2560 14:12:09 #1

จากรูปเลยครับ มีจุดแดงที่องคชาตครับ ตอนแข็งตัวจะเป็นเป็นจุดผื่นบางๆแดงๆครับ แต่พอหด จะเริ่มเห็นเป็นเม็ดใสๆ อยากทราบว่าเกิดจากอะไรครับ เคยมีเพศสัมพันแต่ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง2-3เดือนที่ผ่านมามีการตรวจเลือดทั้ง hiv ซิฟิลิซ หนองใน ผลปกติดี ขอคำแนะนำและการรักษาด้วยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-1.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-2.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-3.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-4.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-5.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9478d-39677-6.JPG

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 27.68 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

10 พฤศจิกายน 2560 08:33:07 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแดงๆเล็กๆที่บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศ เช่นไม่เคยเที่ยวหรือยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่ว่าน่าจะมาจากการที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นเนื่องจากหนังหุ้มยังไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดหรือรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัวหรือรูดลงไม่ได้สุด จึงทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง


แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้ (สบู่ยา น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลหรือครีมอาบน้ำ) และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น


การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้