กระดานสุขภาพ

แบบนี้ใช่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รึเปล่าครับ
Kaka*****t

31 ตุลาคม 2560 12:47:00 #1

 

สวัสดีครับ คุณหมอ  ผมขอถามนะครับ จากรูป  แบบนี้ใช่ต่อมน้ำเหลืองโตมั้ยครับ เพิ่งเป็นเมื่อเช้า เวลากดมันนิ่มกึ่งแข็งนิดหน่อยครับ กดละเจ็บ เวลาเดินขาหนีบสีกันก็เจ็บ หรือมันโดนแมลงกัดต่อยครับ  ขอบคุณครับ

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-2.jpg

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

1 พฤศจิกายน 2560 08:16:19 #2

ขอเสริมนะครับ ตอนนี้มันบวมกว่าเดิมละเริ่มแข็งละครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-5.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 พฤศจิกายน 2560 08:18:59 #3

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มเล็กๆที่ข้างขา มีการอักเสบและอาจจะมีหนองอยู่ในตุ่มด้วย อาจจะเกิดจาก

1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์

2. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ หรือแมลงกัดต่อย ทำให้มีอาการคันและเกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ

3. ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของแผลเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป น่าจะเกิดจากการอักเสบทั่วไป แนะนำหาหมอครับ

Haamor Admin

(Admin)

3 พฤศจิกายน 2560 05:51:22 #4

อัพเดทครับ ลองบีบดู มีหนองจริงๆครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-6.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/kakashiget-39504-7.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 พฤศจิกายน 2560 19:14:54 #5

ดูจากรูปที่ส่งมาและมีหนอง สาเหตุน่าจะเกิดจากกการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคือเป็นฝี แนะนำกอนยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอน ถ้าใหญ่มากขึ้นอาจจะต้องผ่าฝีเพื่อเอาหนองออก แนะนำหาหมอครับ