กระดานสุขภาพ

หนองใน
Phat*****0

26 ตุลาคม 2560 11:40:18 #1

หมอครับ คือผมไปตรวจเลือดมาพวก hiv หนองใน ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส คือผลเลือดหนองในมันออกมา 50 50 แต่ที่เหลือปกติหมดครัลเป็นลบ หมอที่โรงบาลนัดตรวจเลือดหนองในอีก1เดือนถัดมา ผมเสี่ยงมาเมื่อ2เกือบ3 เดือนที่แล้วอ่ะครับ มีโอกาศติด hiv มั้ยครับ แต่ผมตรวจมาผลมันเป็นลบอ่ะครับ กังวลมากเลยครับ กลัวเป็น hiv
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.76 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

27 ตุลาคม 2560 08:56:02 #2

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ สามารตรวจได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ ส่วนเรื่องหนองในและหนองในเทียมนั้น ใช้การตรวจโดยการเพาะเชื้อหรือการตรวจสารพันธุกรรมจากมูกหนือหนองในท่อปัสสาวะ ซึ่งระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า

Phat*****0

28 ตุลาคม 2560 11:27:59 #3

หมอครับแล้วเป็นหนองในนี่จำเป็นต้องติดHiv ด้วยเปล่าครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 ตุลาคม 2560 08:03:06 #4

โรคหนองในเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนโรคเอดส์เกิดจากเชื้อไวรัส HIV เป็นเชื้อคนละชนิดกัน ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อเหมือนกัน คือ มีคู่นอนหลายคน คู่นอนมีความเสี่ยง ไม่ใช้ถุงยางในการร่วมเพศ มีการศึกษาพบว่า ถ้ามีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม ก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV สูงกว่าคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าติดเชื้อหนองในแล้วต้องติดเชื้อ HIV ด้วย

Phat*****0

29 ตุลาคม 2560 09:00:13 #5

หมอครับ แล้วผลเลือดผมเป็นลบ แสดงว่าผมปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับ ตรวจหลังจากมีความเสี่ยงผ่านมา2เกือบ3เดือนอ่ะครับ แล้วผลเลือด + - คืออะไรอ่ะครับ
Phat*****0

29 ตุลาคม 2560 09:00:52 #6

ผลเลือด + - คือหนองในนะครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 ตุลาคม 2560 07:16:09 #7

ผลการตรวจเลือดเอดส์หรือเอชไอวีที่เกือบ 3เดือนหลังเสี่ยง ผลเป็นลบ ถือว่าไม่ติดเชื้อเอดส์ แต่ถ้ามีความเสี่ยงเพิ่มเติม แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ส่วนเรื่องการตรวจหนองใน ไม่สามารถตรวจได้จากเลือด ต้องตรวจจากมูกหรือหนองที่ออกมาจากท่อปัสสาวะ ไม่แน่ใจว่าผลที่คุณส่งมาเป็นการตรวจด้วยวิธีได้ โดยทั่วไปแล้วถ้ามีการติดเชื้อหนองในจะเป็นหลังจากเสี่ยง 3-7 วัน มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองจากท่อปัสสาวะ ถ้าสงสัยสามารหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ