กระดานสุขภาพ

สอบถามอาการและแนวทางการรักษา
Aaa0*****7

24 ตุลาคม 2560 14:29:49 #1

ผม และภรรยา มีอาการดังนี้ครับ (หลังมี พสพ ล่าสุด)

1 ภรรยา มีตกขาว สีเขียว และคัน เป็นมาแล้ว 7 วัน

2 ผม มี หนองใหลออกจากอวัยวะเพศ และปัสสาวะแสบ เป็นบางครั้ง เป็น มา 2 วัน (23 ต.ค เริ่มมีอาการ) 

 

อายุ: 38 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

25 ตุลาคม 2560 08:10:05 #2

จากอาการภรรยาของคุณน่าจะมีการติดเชื้อราเพราะมีลักษณะของตกขาวมีอาการคัน คุณควรให้ภรรยามาพบแพทย์เพื่อนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ว่ามีเชื้อใด จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป เพราะอาจจะต้องสอดยาทางช่องคลอด และทายาภายนอกเพื่อบรรเทาอาการคัน ยาที่ใช้ได้กับยาในกลุ่มของโครไทยมาโซล ซึ่งสามารถสอดยาได้ทางช่องคลอดนานติดต่อกัน 6 คืน โดยจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นเกิด การใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางและเปลี่ยนทิ้งให้บ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง เมื่อไม่มีความอับชื้น อาการจะดีขึ้น ส่วนอาการของคุณนั้นควรจะไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเพราะอาจจะเป็นหนองในก็ได้เนื่องจากมีหนองไหลออกมาทางอวัยวะเพศร่วมด้วยจะต้องนำสิ่งคัดหลั่งไปตรวจทางกล้องจุลทรรศน์จะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 ตุลาคม 2560 08:14:01 #3

อาการดังกล่าวแสดงว่าอาจจะมีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ1- 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิด
ปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้ง

หนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้งสองโรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ

Aaa0*****7

1 พฤศจิกายน 2560 14:20:15 #4

ไปพบหมอ และฉีดยาเรียบร้อยแล้วครับ ทั้ง 2 คน แต่ ผม มาสังเกตเห็นที่หลังว่า ตรงส่วนโคนที่เรียกว่าเส้นสองสลึงมี ตุ่มแดงเหมืนีหนอง คือผลของหนองในด้วยรึปะครับ