เรียน คุณ Fineka,

แนะนำให้รับประทานยาก่อนเข้านอนนะครับ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ท้องว่าง ลดโอกาสที่จะเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาคุมฯกับยาหรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ และเป็นช่วงที่ใกล้เคียงกับที่ต่อมใต้สมองมีการหลั่งฮอร์โมนเพศ และยังช่วยป้องกันการเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนภายหลังรับประทานยาด้วยครับ

การรับประทานยานั้นควรดื่มด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน และร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ เช่น ชา (ชาเขียว ชาแดง) กาแฟ โกโก้ นม โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง โซดา น้ำอัดลม เป็ฯต้น ซึ่งหากเป็นเครื่องดื่มดังกล่าวอาจต้องเว้นช่วงเวลาหลังจากรับประทานยาไปแล้ว 2 ชั่วโมง หรือถ้าเป็นผลิตภัณฑ์จากนม นมถั่วเหลือง อาจต้องเว้นช่วงหลังรับประทานยาถึง 4 ชั่วโมง

ส่วนน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุั้นให้ตับที่เป็นแหล่งกำจัดยา มีการผลิตเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้กำจัดยาเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงกำจัดตัวยาได้มากหรือเร็วขึ้น เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต (รวมถึงจำพวกส้มโอ ส้มเช้ง) น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ ฯ

ซึ่งไม่ขึ้นกับความห่างระหว่างตัวยากับน้ำผลไม้ เนื่องจากเป็นการกระตุั้นให้มีการสร้างเอนไซม์เพิ่มขึ้น รับประทานยาช่วงไหนก็มีโอกาสถูกกำจัดได้มากและเร็วขึ้นกว่าเดิม

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรอืเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้า ไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)

ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม

เรียน คุณ Fineka,

หากต้องการการออกฤทธิ์ยาสม่ำเสมอตลอดวัน ระดับยาไม่สูงบ้างต่ำบ้าง หรือเสี่ยงต่อการลืมรับประทานยา ควรรับประทานยาในเวลาใกล้เคียงกันทุกคืน เวลาคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครับ

ส่วนการรับประทานยาคลาดเคลื่อนมาก ๆ ก็อาจเสี่ยงต่อการลืมรับประทานยาได้ หรือหากเวลาใกล้กับมื้อถัดไป ก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืดหรืออาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล