กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนหมดแต่เลือดไหลไม่หยุด
Anonymous

4 ตุลาคม 2560 14:06:39 #1

มีพสพกับแฟนวันที่ 9 ส.ค. สอดใส่แปบเดียวเอาออก ไม่เสร็จ จากนั้นกินยาคุมฉุกเฉินภายในเวลา ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจวันที่ 30 ส.ค. ไม่เจอว่าท้อง จากนั้น คืนวันที่ 14 ก.ย. มีเลือดสีน้ำตาลมาเลอะกางเกงใน พอวันที่ 15 ก.ย. ตอนเช้าประจำเดือนก็มา เลยเริ่มกินยาคุมแบบแผง 21 เม็ด ประจำเดือนได้ประมาณ 5-6 วัน หมดประมาณวันที่ 21 จากนั้นก็มีเลือดสีน้ำตาลออกมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ก็ยังมีอยู่ค่ะ มีลื่มเลือดเป็นบางครั้งด้วย ไม่ทราบว่าเป็นอันตรายมั้ยคะ? หรือมีโอกาสท้องมั้ย? ตรวจปัสสาวะไปอีกครั้งแล้วประมาณวันที่ 25 ก.ย. ก็ขึ้นขีดเดียวค่ะ
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 ตุลาคม 2560 06:38:40 #2

จากประวัติที่คุณบอกมา คุณมีการทานยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีหลังทานยาคุมฉุกเฉิน คุณมีเลือดออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะพบได้หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน หลังจากนั้นคุณก็ได้เริ่มทานยาคุมชนิดแผง 21 เม็ด ซึ่งถ้าคุณรับประทานอย่างถูกวิธี ทานภายในเวลาเดียวกันของทุกวัน ไม่ลืมทานยา ยาจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แน่นอน การที่คุณมีเลือดออกผิดปกติระหว่างทานยาคุมกำเนิด อาจจะเป็นเพราะคุณทานยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ หรือมีเอสโตรเจนเพียง 15 ถึง 20 ไมโครกรัม ซึ่งปริมาณเอสโตเจนที่น้อยเกินไปอาจจะทำให้คุณมีเลือดออกผิดปกติกระปริบกระปรอยออกมาทางช่องคลอด แต่ข้อดีคือคุณจะไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนค่ะ ในกรณีที่คุณทนอาการข้างเคียงนี้ไม่ไหว คุณอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น เป็น 30-35 ไมโครกรัม อาการคลื่นไส้อาเจียนจากฮอร์โมนที่สูงได้ แต่ถ้าคุณทานยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงอยู่แล้ว แต่ยังมีเลือดออกผิดปกติคุณควรไปรับการตรวจภายใน เพราะอาจจะมีติ่งเนื้อผิดปกติที่ปากมดลูกที่เรียกว่า polyp ก็ได้ค่ะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องตัดติ่งเนื้อออกเลือดก็จะหยุดไหลได้ทันทีค่ะ