กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มา รบกวนด้วยครับ
Anonymous

1 ตุลาคม 2560 00:46:21 #1

ประจำเดือนมาล่าสุด 4 สค ตรวจการปัสวะด้วยตนเองวันที่ 20 กย ครับ ในตอนเช้าใช้ที่ตรวจแบบหยก 2 อัน ขึ้น 1 ขีด ทั้งสองอัน ตรวจ 26 วันหลังจากวันที่มีความเสี่ยง ความเสี่ยงที่มีคือการถูไถภายนอกมีน้ำหล่อลื่นทั้งชายและหญิงแต่มั่นใจว่าไม่ได้สอดใส่ครับ แต่มีการใช้นิ้วที่เลอะน้ำหล่อลื่นช่วยแฟนมั่นใจครับว่าไม่ได้หลั่ง แบบนี้จะท้องไม๊ครับ แต่ตรวจผัสวะเองแล้ว 26 วันหลังเสี่ยง ผลเชื่อถือได้ยังครับว่าไม่ท้อง มันมีกรณีที่ จะตรวจเจอ hcg หลังจาก 26 วันไปอีกไม๊ครับ ปล.แฟนข่อนข้างอวบ เดือนที่ผ่านมาน้ำหนักขึ้น 2 3 กิโล ตอนนี้หนัก 70 มีอาการอ้วนลงพุงกับสะโพกครับ บวมออกมาอย่างเห็นชัด แลัวก็มีคนดก ทั้งแขนและขา และอื่นๆ มีสิวที่หลังเนลยอะและผิวมัน ปกติรอบเดือนจะไม่ตรง รอบประมาน 33-38 วัน บางเดือน 40 กว่าวัน แต่ก็จะมาทุกเดือน วันนี้ 1 ตค แล้วยังไม่มา กังวลว่าจะท้องหรือป่าวครับคุณหมอ รบกวนด้วยครับ
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

1 ตุลาคม 2560 07:54:58 #2

เพิ่มเติมครับ เมื่อวันที่ 9 และ 10 กย มีเลือดออกกระปิดกระปอยแค่พอเลอะผ้าอนามัยเป็นเลือดสีน้ำตาลครับ มานิดเดียวแล้วก็หายไป ออกในช่วงที่ประจำเดือนควรจะมา เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเลือดประจำเดือนหรือเลือดล้าง หน้าเด็กครับคุณ หมอ หลังจากนั้นก็ตรวจการตั้งควรรถในวันที่ 20 ช่วงเช้าผลคือขึเนขีดเดียว ห่างจากวันที่เลือดนั้นออก 12 วัน และห่างจากวันที่มีความเสี่ยง 26 วัน เสี่ยงวันที่ 26 สค คับ สงสัยว่าถ้าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กจะต้องตรวจพบ 2 ขีดแล้วหรือป่าวครับ แต่นี่ขึ้นแค่ขีดเดียวในปัสวะเช้าด้วย
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

1 ตุลาคม 2560 17:55:40 #3

จากประวัติที่บอกมา แฟนคุณไม่ควรมีการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะเป็นการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ในช่วงวันที่ 26 หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผลการตรวจจะเชื่อถือได้แน่นอน และคุณไม่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอด จึงไม่ควรมีการตั้งครรภ์ เนื่องจากแฟนคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมากและเคยมีรอบเดือนที่มาไม่ปกติ ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ หรือที่เรียกว่าภาวะ pcos (polycystic ovarian syndrome) ซึ่งภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมาก จนไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีความหนาตัวมากจึงอาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ดังนั้น การรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนมาเป็นปกติ และจะต้องพยายามลดน้ำหนักลงด้วยค่ะ

Anonymous

3 ตุลาคม 2560 14:16:14 #4

เดือนที่ผ่านมา แฟน น้ำหนักขึ้นมา 6 กิโลอ่ะครับ ตอนนี้ 75 แล้วครับคุนหมอ แบบมีผลต่อการที่ประจำเดือนไม่มาหรือป่าวครับ เดือนที่ ปจดไม่มา น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้น
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

4 ตุลาคม 2560 08:06:08 #5

การที่น้ำหนักตัวขึ้นเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ จะทำให้เกิดภาวะ pcos ได้ง่ายมากเพราะผิวรังไข่จะมีความหนาตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากชั้นไขมันที่ไปพอกทำให้ไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะทำให้ไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ก็จะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ค่ะ คุณควรให้แฟนลดน้ำหนักตัวลงรอบเดือนจะได้เป็นปกติ ตอนนี้ถ้ารอบเดือนไม่มาและไม่มีการตั้งครรภ์ก็ควรรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนมาตามปกติค่ะ

Anonymous

4 ตุลาคม 2560 13:31:05 #6

ขอบคุณครับคุณหมอ แฟนทานอาหารปกติ แต่เดือนทำผ่านมาน้ำหนัก ขึ้นมาเยอะมากครับ ไม่รู้เพราะสาเหตุใด อีกทั้งผระจำเดือนก็ไม่มาเช่นกัน ซึ่งตรวกการตั้งครรภ์แล้วก็พบว่าไม่ท้อง คิดว่าคงเป็นสาเหตุตามที่คุณหมอบอกครับ ส่วนประจำเดือนถ้าไม่ทานฮอรโมน เพื่อปรับคงจะไม่มาใช่ไม๊ครับ เคสนี้
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 ตุลาคม 2560 06:39:47 #7

ถ้ารอบเดือนขาดหายไปนานเกิน 3 เดือน ควรให้แฟนรับประทานฮอร์โมนเพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติค่ะ เพราะผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะได้ไม่หนาตัวมากเกินไป ซึ่งถ้าหนาตัวมากอาจจะเสี่ยงต่อเรื่องของการเกิดมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ตอนนี้ถ้ายังไม่อยากทานฮอร์โมนอาจจะสังเกตอาการไปก่อนก็ได้แต่ถ้ารอบเดือนหายไปนานควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมารับประทานค่ะ