กระดานสุขภาพ

มีข้อสงสัย ขอคำำปรึกษาหน่อยครับ
Piya*****i

7 มีนาคม 2556 15:54:01 #1

ข้อ 1.ตอนมีเพศสัมพันธ์กันถ้าผู้ชายหลั่งน้ำอสุจิข้างนอก ผู้หญิงจะท้องหรือเปล่าคะ แล้วต้องกินยาคลุมไหมคะ

     2. ตอนมีเพศสัมพันธ์กันใส่ถุงยางอนามัย จะท้องหรือเปล่าคะแล้วถุงยางจะป้องกันได้กี่เปอร์เซ็น มีโอกาศเสี่ยงเยอะหรือเปล่าคะ

    3.ถ้าผู้หญิงกินยาคุม แล้วต้องกินตลอดทุกวัน หรือเปล่าคะ แล้วต้องกินนานแค่ไหน ขอคำปรึกษาด้วยค่ะ "ขอบคุณค่ะ"

 

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.40 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พ*****

9 มีนาคม 2556 04:47:07 #2

  1. การมีเพศสัมพันธ์โดยมีการสอดใส่อวัยวะเพศและไม่ได้สวมถุงยางอนามัยหรือคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ สามารถตั้งครรภ์ได้แม้ฝ่ายชายจะหลั่งภายนอก เพราะระหว่างที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวขณะร่วมเพศนั้น ฝ่ายชายจะหลั่งสารหล่อลื่นออกมาซึ่งอาจจะมีตัวอสุจิปนออกมาด้วยแม้จะยังไม่ได้หลั่งน้ำอสุจิค่ะ หากไม่พร้อมจะตั้งครรภ์จึงควรมีการคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม หรือสวมถุงยางอนามัย
  2. การสวมถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 82-98% โดยควรสวมตอนที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวและก่อนจะสอดใส่ และห้ามใช้สารหล่อลื่นหรือน้ำมันร่วมด้วยเพราะจะทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ง่ายขึ้น หลังจากใช้แล้วควรตรวจสอบดูทุกครั้งว่าถุงยางอนามัยแตกหรือรั่วหรือไม่ ข้อดีของถุงยางอนามัยคือ สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ หนองใน ได้
  3. ยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ในสตรีทั่วไปคือ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เป็นยาเม็ดรับประทาน มีชนิด 21 เม็ดและ 28 เม็ด ต้องรับประทานยาต่อเนื่องทุกวันค่ะ ส่วนจะรับประทานยานานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการคุมกำเนิดไปนานเพียงใดก็ให้รับประทานต่อเนื่องไปค่ะ แต่ก่อนจะเริ่มใช้ยานี้ควรศึกษารายละเอียดการใช้ยาก่อนนะคะ

การรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง คือ

  • ต้องมั่นใจว่าไม่ตั้งครรภ์
  • เริ่มรับประทานเมื่อเป็นประจำเดือนไม่เกิน 5 วันนับจากการเป็นประจำเดือนวันแรก โดยที่จะต้องมั่นใจว่าเลือดที่ออกเป็นประจำเดือนที่ปกติ ไม่ไช่เลือดออกกะปริบกะปรอย หรือเลือดที่ออกระหว่างรอบประจำเดือนจริง
  • ต้องรับประทานยาสม่ำเสมอทุกวัน ควรรับประทานตรงเวลา
  • หากลืมรับประทานยา 1 เม็ดให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้และรับประทานเม็ดต่อไปตามเดิม
  • ยาปฏิชีวนะบางชนิด มีผลลดประสิทธิภาพการคุมกำเนิดของยาได้ ก่อนรับประทานยาจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน
  • เมื่อจะเริ่มรับประทานยาแผงถัดไป สำหรับยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ดให้เริ่มแผงถัดไปในวันรุ่งขึ้นหลังจากยาเม็ดสุดท้ายหมด ส่วนชนิด 21 เม็ดให้เว้นไม่เกิน 7 วันหลังจากยาเม็ดสุดท้ายหมดแล้วเริ่มแผงถัดไปโดยไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะเริ่มมาวันใด

ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนสูงถึง 99 เปอร์เซนต์ในทางทฤษฎี แต่โดยทางปฏิบัติเมื่อใช้จริงกับประชากรทั่วไปอาจจะลดลงเป็นประมาณ 92-97 เปอร์เซนต์ แปลว่าถึงแม้จะรับประทานยาอย่างถูกต้องก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม มีข้อห้ามใช้ในรายที่แพ้ยา เป็นโรคตับ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน หรือหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา การรับประทานยาต่อเนื่องนานๆอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ แต่อาจช่วยลดมะเร็งรังไข่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ค่ะ