กระดานสุขภาพ

ทาน morning-after pill (ella1) ช่วงไข่ตก เสี่ยงตั้งครรภ์ ?
Anonymous

21 สิงหาคม 2560 14:16:19 #1

Aug 20 - เพศสัมพันธ์ ใช้ถุงยางอย่างเดียวในการคุมกำเนิด(ถุงยางติดอยู่ด้านในและเอาออก คาดว่ามีการ pre-cum แต่ไม่มีการหลั่ง)
Aug 20 - ทาน ella1 (2-3 ชม ถัดมาโดยประมาณ)

ข้อมูลประจำเดือน
วันแรกของประจำเดือน
Jan 11: (6 bleeding days) , (gap 24 days: Jan 11 - Feb 03)
Feb 04: (6 bleeding days) , (gap 24 days: Feb 04 - Feb 27)
Feb 28: (7 bleeding days) , (gap 29 days: Feb 28 - Mar 28)
Mar 29: (5 bleeding days) , (gap 26 days: Mar 29 - April 23)
April 24 (or 25): (6 bleeding days) , (gap 26 days: April 24 - May 19)
May 20: (7 bleeding days), (gap 26 days: May 20 - Jun 14)
Jun 15: (6 bleeding days), (gap 25 days: Jun 15 - Jul 09)
Jul 10: (6 bleeding days), (gap 27 days: Jul 10 - Aug 05)
Aug 06: (4-5 bleeding days)

average bleeding days = 6.625
average cycle(gap) = 25.875
max cycle = 29 days
min cycle = 24 days

คำถาม
รบกวนขอคำแนะนำ โดยไม่ให้เกิดการตั้งครรภฺ์
มีวิธีคุมกำเนิดที่เป็นไปได้ e.g. IUD ถ้าทำ IUD ควรทำแบบไหน และ ภายในกี่วันหลังมีเพศสัมพันธ์ และมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนในสถานการณ์นี้
ถ้ามีข้อแนะนำอย่างอื่นรบกวนด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

อายุ: 32 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.32 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

22 สิงหาคม 2560 04:36:37 #2

จากประวัติที่คุณบอกมาคุณได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีคือทานภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นยาคุมจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทั้งนี้คุณไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งหรือเกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ iud ปัจจุบันวิธีการใส่ iud มีที่ใช้น้อยมาก เพราะอาจจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการใส่ได้ คุณเป็นคนที่มีรอบเดือนมาค่อนข้างสม่ำเสมอทุก 24-29 วัน แสดงว่าเป็นคนที่มีไข่ตกเร็ว ดังนั้นหมอแนะนำว่ารอบเดือนนี้ คุณอาจจะมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้ เพราะคุณได้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน คุณควรสังเกตอาการไปก่อน ถ้ามีเลือดออกผิดปกติช่วงหลังทานยาก็ไม่ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติที่พบได้หลังทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ และรอบเดือนถัดไปก็น่าจะมีความคลาดเคลื่อนออกไปด้วยค่ะ

Anonymous

22 สิงหาคม 2560 07:57:18 #3


ขอบคุณค่ะ รบกวนถามต่อ

เนื่องจาก มีเพศสัมพันธ์ (Aug 20) ซึ่ง เป็น14 วันหลังจากวันแรกรอบเดือน (aug 6) (ช่วงตกไข่)
และจะมีนัด ทำ coppper IUD 4-5วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ (aug 23 or 24) เพือ่ป้องกันการตั้งครรภ์

คำถาม
1. เนื่องจาก IUD "ไม่ควร"ทำในสถานการณ์นี้ (1-2 weeks ก่อนประจำเดือน), ควรจะทำ IUD มั้ยคะ
2. ถ้าใส่ IUD จะมีประสิทธิภาพ และส่งผล ไม่ให้ตั้งครรภ์ มากน้อยแค่ไหนคะ ถ้าทำในช่วงนี้ (4 -5 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์)
3. ทำไม IUD จึงควรทำในช่วงมีประจำเดือน ถ้า ทำในช่วงไม่มีประจำเดือนจะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

Anonymous

22 สิงหาคม 2560 07:57:23 #4


ขอบคุณค่ะ รบกวนถามต่อ

เนื่องจาก มีเพศสัมพันธ์ (Aug 20) ซึ่ง เป็น14 วันหลังจากวันแรกรอบเดือน (aug 6) (ช่วงตกไข่)
และจะมีนัด ทำ coppper IUD 4-5วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ (aug 23 or 24) เพือ่ป้องกันการตั้งครรภ์

คำถาม
1. เนื่องจาก IUD "ไม่ควร"ทำในสถานการณ์นี้ (1-2 weeks ก่อนประจำเดือน), ควรจะทำ IUD มั้ยคะ
2. ถ้าใส่ IUD จะมีประสิทธิภาพ และส่งผล ไม่ให้ตั้งครรภ์ มากน้อยแค่ไหนคะ ถ้าทำในช่วงนี้ (4 -5 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์)
3. ทำไม IUD จึงควรทำในช่วงมีประจำเดือน ถ้า ทำในช่วงไม่มีประจำเดือนจะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

23 สิงหาคม 2560 08:13:12 #5

โดยปกติการคุมกำเนิดด้วยการใส่ห่วง iud ซึ่งเป็นห่วงทองแดง และหวังผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ จะใส่หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 5 วันแรกนับจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่เกี่ยวกับรอบเดือน เชื่อว่าลวดทองแดงที่อยู่บริเวณห่วง จะออกฤทธิ์ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณผนังเยื่อบุโพรงมดลูก จนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ และไม่เกิดการตั้งครรภ์ ที่คุณบอกมาว่าการใส่ iud ควรทำในช่วงที่มีประจำเดือน น่าจะหมายถึงการคุมกำเนิดโดยการใช้ iud ควรจะทำในช่วงที่มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ และควรจะใส่ในช่วงที่มีรอบเดือนมาไม่เกิน 5 วันแรก การใส่ห่วง iud อาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยมีประจำเดือนมามาก มีเลือดออกผิดปกติมีการติดเชื้อในช่องคลอดได้ง่ายและมีตกขาวผิดปกติได้ค่ะ