เรียน คุณ 79ce2,

คำถามนี้คงตอบได้ยากนะครับ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงในการมีบุตรยาก
หรือเรื่องการเกิดเนื้องอก หรือมะเร็งต่อระบบสืบพันธุ์ มีหลายปัจจัยที่ส่งผล
เช่น อาหาร อากาศ การออกกำลังกาย กรรมพันธุ์ การได้รับสารเคมีที่เป็นพิษ เป็นต้น

จากข้อมูลของบริษัทยา ข้อควรระวังพิเศษ คือ ห้ามรับประทานยาเกินกว่า 2 ครั้ง ต่อเดือน เนื่องจากตัวยาจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ (จากกลไกการออกฤทธิ์ของยาที่ทำให้ท่อนำไข่บีบตัวช้าลง หากเกิดการผสมของอสุจิกับไข่ ก็อาจฝังตัวที่ทำไข่ได้ ซี่งบริเวณนั้นจะมีเนื้อเยื่อบาง เสี่ยงต่อการฉีกขาดตกเลือดภายในช่องท้องจนอาจเสีียชีวิตได้)

แต่มีการศึกษาวิจัย พบว่าสตรีที่รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิตมีความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกที่เต้านม หรือมดลูก หรือตับมากกว่าสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดปกติ

หากมีความจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง โดยที่ไม่ได้มีเป็นประจำ แนะนำให้ใช้การสวมถุงยางอนามัย นอกจากช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยป้องกันการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริม ไวรัสตับอักเสบ บี/ซี หรือไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด
และยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวีที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง
หรือ หูดหงอนไก่/มะเร็งองคชาติในเพศชายอีกด้วย

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน เพื่อสอบถามข้อมูลให้เข้าใจชัดเจน

ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ หรอืไม่ตอบโจทย์ขอ้สงสัยของคุณ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์