กระดานสุขภาพ

ปวดท้องน้อยเป็นเดือนแล้วยังไม่หาย ทำยังไงดีคะ?
Anonymous

30 กรกฎาคม 2560 13:27:06 #1

30 กรกฎาคม 2560
0:36

สวัสดีคะ เพื่อนๆทุกคน

*ฉันมีเรื่องอยากปรึกษาสอบถามผู้มีความรู้
ความเชี่ยวชาญหรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้นะคะ*

เนื้อเรื่องอาจจะยาวหน่อยช่วยอ่านกันหน่อยนะคะ
ฉันสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคอะไรและจะหายขาด
มั้ยคะ

คือฉันกับแฟนเราคบกันและมีเพศสัมพันธ์กันคะ ฉันจึงตัดสินใจฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนเพื่อป้องกัน
และฉันก็ไม่เคยมีลูกหรือท้องมาก่อนคะ ช่วงแรกๆที่เรามีอะไรกันฉันก็ปกติดีไม่ได้เป็นอะไร
นะคะ แต่หลังๆมานี้เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน
พอฉันมีอะไรแฟนกลับรู้สึกเจ็บมากเหมือนแทงภายใน
ทะลุไปถึงท้องน้อยเลยคะปวดและทรมานมาก และตอนมีเพศสัมพันธ์หลังเสร็จมักจะมีเลือดออก
มาจากทางช่องคลอดประจำจนไม่อยากจะมี
เพศสัมพันธ์อีกเลยคะ เพราะกลัวเจ็บอีก
ฉันกับแฟนปรึกษากันจึงได้ตัดสินใจไปตรวจภายในที่ รพ. แห่งหนึ่ง

ไปหาหมอตรวจครั้งที่ 1
อาการฉันมีเลือดออกจากช่องคลอด มีตกขาวมีกลิ่นเหม็นและเป็นก้อนสีขาวขุ่นซึ่งผิดปกติ
ปวดท้องน้อยมากทั้งสองข้าง มีเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยคะ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ หมอเลยตรวจภายใจและบอกว่าฉันเป็นโรคมดลูกอักเสบคะ ให้ยากินและฉีดยาให้คะ

ไปหาหมอตรวจครั้งที่ 2
อาการตกขาวและเลือดหายแล้วคะ ไม่ค่อยมี แต่อาการปวดท้องยังไม่หายคะ แต่อาการก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะคะ จนคุณหมอบอกว่าหายแล้วให้กินยารอบนี้หมดก็โอเค
แล้วคะ

( ประมาณ 1 อาทิตย์ต่อมา )
หลังกลับจากไปหาหมอรอบที่ 2 อาการทุกอย่าง
ดีขึ้นจน 3 วันต่อมา ฉันกลับมาเริ่มปวดท้องน้อยอีก
คราวนี้ปวดแรงขึ้นกว่าสองครั้งที่ไปหาหมอ
แล้วพอเวลายกของหนัก ก็มีเลือดออกมาจากช่องคลอด
มีตกขาวเพียงเล็กน้อยมีกลิ่นเหม็น ปัสสาวะแสบขัด แต่อาการปวดท้องจะหนักที่สุด

ไปหาหมอตรวจครั้งที่ 3
จากอาการที่ฉันพึ่งได้กล่าวไปเมื่อสักครู่นี้
(ข้อความสีเหลืองข้างต้น)
ฉันจึงได้ไปหาหมออีกครั้ง แต่หมอกลับบอกว่าฉันมีอาการแต่ปวดท้องน้อย
ทั้งสองมาก ส่วนอาการอื่นๆก็ไม่มีอะไร แค่สันนิษฐานว่า
ฉันอาจจะเป็นปีกมดลูกอักเสบทั้งสองข้างหรือไม่ก็
ติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานคะ เลยฉีดยากับให้ยามาทานที่บ้าน

( ประมาณ 1 อาทิตย์ต่อมา )
2 วันแรกหลังกลับที่จากหาหมอฉันอาการดีขึ้นคะ แต่พอตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไป ฉันกลับมาการทรุดลง
แย่กว่าเก่า คือฉันปวดท้องน้อยมากทั้งสองข้าง
แต่ข้างซ้ายจะเจ็บกว่าคะ มีตกขาวออกเล็กน้อยเป็นก้อน
เวียนหัว คลื่นไส้ รู้สึกหน้ามืดบ่อยมาก แต่ไม่อาเจียนคะ
จนมันมีผลกระทบต่องานที่ฉันทำอยู่หรือในชีวิต
ประจำวันของฉันคะ เพราะอาการปวดท้องไม่ทุเลา
ลงเลยคะจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย แค่เดินยังแทบ
จะไม่รอดคะ แถมรอบนี้ยังมีไข้ขึ้นเป็นบางครั้งด้วยคะ ฉันจึงตัดสินใจไปหาหมออีกครั้งคะ

ไปหาหมอตรวจครั้งที่ 4
จากอาการข้างต้น ( ข้อความสีเหลือง )
ฉันไป รพ. หมอตรวจแล้วเลยบอกให้แอดมิด
ดูอาการเลยคะ เพราะรักษาแบบผู้ป่วยนอกและอาการ ไม่ดีขึ้น เลยนอนรักษาตัวได้ ประมาณ 7 วันคะ
สรุปคือหมอบอกเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานคะ
เลยฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำมีทั้งยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อให้จนกว่าจะหายคะ ตอนที่อยู่ รพ. คืออาการปวดท้องดีขึ้นเยอะมากเลยคะ จนหมอให้ออก
จาก รพ. ได้แต่ต้องกินยาต่อเนื่องประมาณ 1 อาทิตย์

ณ ปัจจุบัน
หลังจากออก รพ. แล้วอาการฉันทุกอย่างดีขึ้นยกเว้น
เรื่องปวดท้องน้อยคะ ฉันยังปวดเหมือนเดิมคะ เหมือนโดนกดทับจนปวดมาก หรือแบบบางทีรู้สึกเสียว
แปล๊บขึ้นมาจนล้มทั้งยืนเลยคะ แต่จะปวดท้องถี่ๆ
หรือเจ็บมากที่สุดข้างขวาคะ มีเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน
และหน้ามืดบ่อยมากคะช่วงนี้ ฉี่บ่อยขึ้นและช่วงหลังมานี้
ฉันรู้สึกขับถ่ายดีมากจนเกินไปคะ เพราะวันหนึ่ง
ฉันขับถ่ายได้ประมาณ 2-3 รอบต่อวัน แต่ไม่มี
เลือดออกนะคะ ขออนุญาตนะคะถ้าใช้คำไม่สุภาพ
ขับถ่ายออกมาทั้งแบบกนและเหลวแต่ก้อยังปกติอยู่คะ แต่จนตอนนี้ฉันมีอาการเจ็บที่รูทวารเป็นอย่างมากคะ
แค่ถ่ายก้อเจ็บจะล้างทำความสะอาดก้อเจ็บหลังจากพอชำระล้างเสร็จแล้วมานั่งก็ยังเจ็บอยู่คะหรือแค่แตะไป
โดนก็เจ็บคะ จนตอนนี้สงสัยกับตัวเองว่าทำไมยังไม่หาย
สักทีหรือเป็นอะไรกันแน่เพราะอาการปวดท้องน้อย
มันปวดมาได้จะประมาณ 1 เดือนแล้วคือจะปวดๆ
หายๆคะ แต่จะปวดอยู่ตลอดทั้งวันคะ ปวดแล้วก้อหาย
ฉันพึ่งสังเกตอากาว่าฉันจะเจ็บท้องเวลายกของหนัก , ยืนนานไป , เวลาก้มๆเงยๆ , กระโดดโลดเต้น , หรือ
ท้องกระโดนกระแทกอะไรเข้า คือบางทีแค่เพื่อนเดินชน
หรือแค่นั่งรถล้วเจอลูกคลื่นทำให้กระแทก ก็เจ็บท้องคะ แต่พอนั่งหรือนอนพักก้อจะดีขึ้นคะ
จนทุกวันนี้เวลาเดินจนต้องเอามือประคองหรือกุม
ท้องน้อยไว้เลยคะ แค่กระเทือนหรือโดนกระแทก
นิดเดียวก็เจ็บปวดคะ จนตอนนี้นึกว่ามีเชื้อแบคทีเรียเต็ม
ทั่วร่างกายแล้วคะ เพราะฉันมีอาการโรคปาก
นอกกระจอกร่วมด้วยคะ คือแบบบางทีก็ งง รักษายังไง
ทำไมไม่หายขาดสักทีคะ แล้วจะให้ปวดท้องแบบนี้ไป
ตลอดเลยหรอคะ

ใครพอทราบสาเหตุของโรคหรือเคยมีประสบการณ์เหมือนกัน หรือพอรู้วอาการแบบนี้ฉันเป็นอะไร
กรุณาช่วยตอบและบอกกันด้วยนะคะ จะตอบความคิดเห็นทางกระทู้หรือแอดเข้ามาใน
แชทเฟสบุ๊คก็ได้คะ ขอบพระคุณทุกคน ณ ที่นี่
ล่วงหน้าด้วยนะคะ
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.19 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

31 กรกฎาคม 2560 09:29:11 #2

จากประวัติที่คุณบอกมาคุณน่าจะมีการอักเสบของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะที่ตัวกล้ามเนื้อมดลูก และรังไข่ ถ้าคุณมีอาการปวดท้องที่รุนแรงมาก แนะนำว่าคุณควรไปรับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีก โดยอาจจะต้องทำอัลตราซาวด์หรือทำ ct scan เพื่อประเมินอวัยวะในอุ้งเชิงกรานทั้งหมด ว่ามีฝีหนอง พังผืด หรือความผิดปกติอื่นใดที่บริเวณกล้ามเนื้อมดลูก รังไข่ หรือลำไส้หรือไม่ เพราะอาจจะต้องรักษาโดยการใช้ฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง หรือการทำผ่าตัดต่อไปค่ะ
Anonymous

31 กรกฎาคม 2560 17:09:43 #3

เเล้วเเบบนี้จะรักษาหาขาดไหมคับผม

 
Anonymous

31 กรกฎาคม 2560 17:18:37 #4

ขอถามเพิ่มเติมนะะ แต่หนูไม่มีเลือดและตกขาวออกจากทางช่องคลอดแล้วนะคะ มีแต่อาการปวดท้องน้อยเรื้อรังทั้งสองข้างอย่างเดียวคะ เพราะเป็นตลอดทั้งวัน ไม่หายสักทีคะ ทั้งๆที่กินยาและได้รับการรักษาโดย ultrasound และฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำแล้วก็ตามคะ หนูจะมีอาการเกือบตลอดทั้งวันคะเป็นๆหาย หนูจะมีอาการเวลายืนนานๆ , ก้มๆเงยๆ , ยกของหนัก หรือกระโดดหรือโดนกระแทกระ เดินเร็วก็ไม่ได้นะคะ มันจะเจ็บแปล็บปวดขึ้นมาคะ ช่วงนี้หนูเหม็นอาหารบ่อย ของหวานที่เคยชอบบางอย่างก็กินไม่ได้คะ รู้สึกคลื่นไส้บ่อยๆ อาเจียนบางครั้งคะ เบื่ออาหารคะ แต่น้ำหนักบางวันก็เพิ่มหรือบางวันก็ลดเองคะประมาณ 1-2 โลคะ แต่เวียนหัวและจะหน้ามืดบ่อยมากคะ และเวลาปวดท้องน้อยบางครั้งก้อจะลามปวดมาถึงสะโพกและลงไปถึงข้อหัวเข่าคะ หรือบางทีเวลาปวดท้องก็ขะปวดลามจากสะโพกขึ้นไปตามสันหลังถึงไหล่คะ แบบนี้หนูควรจะไปตรวจภายในโดยตรงหรือตรวจพบแพทย์ทั่วไปค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

1 สิงหาคม 2560 09:04:51 #5

อาการปวดท้องน้อยเรื้อรังอาจจะเกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือช็อกโกแลตซีส ซึ่งควรรับการรักษาโดยการฉีดฮอร์โมน หรือการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำว่าจากประวัติคุณ อาการไม่ปกติมาก คุณควรไปรับการตรวจอย่างละเอียด การตรวจอัลตราซาวด์อย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ น่าจะต้องทำการตรวจด้วยวิธีพิเศษ คือ ct scan และไปพบแพทย์ทางด้านสูตินรีเวชและทางด้านระบบทางเดินอาหารและศัลยกรรมควบคู่กันไป ซึ่งความผิดปกติที่พบ จะต้องใช้แพทย์ 3 กลุ่มนี้ในการประเมินและวินิจฉัยคุณค่ะ ตอนนี้หมอตอบจากประวัติที่คุณให้มาเท่านั้น แต่ทางที่ดีถ้าอาการมากมายขนาดนี้น่าจะต้องกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจะดีที่สุดเลยค่ะ จะได้ปลอดภัยและรักษาได้ถูกต้องตามสาเหตุต่อไปค่ะ