กระดานสุขภาพ

เเบบนี้จะท้องไหมครับ
Anonymous

30 กรกฎาคม 2560 03:15:05 #1

กรณี1คือผมมีเพศสัมพันธ์เเบบ ถูๆ กับเเฟน เเต่ไม่เข้าไปในช่องคลอดนะครับ เเต่มีน้ำหล่อลื่น [ยังไม่ได้หลั่ง] กรณี2 ใช้นิ้วที่มีน้ำหล่อลื่น สอดเข้าช่องคลอดเเฟน จะท้องไหมครับ
อายุ: 15 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

30 กรกฎาคม 2560 08:33:03 #2

ขอตอบแทนหมอน้ะครับน้ำหล่อลื่นนั้นเป็นของผู้หญิงครับน่าไม่ท้องครับ
Anonymous

30 กรกฎาคม 2560 09:06:05 #3

ลืมบอกไปครับ กรณีที่2 น้ำหล่อลื่นเป็นของผมครับเพราะผมจับอวัยวะเพศของตัวเองก่อนสอดนิ้ว ให้เเฟนครับ
Anonymous

30 กรกฎาคม 2560 13:38:54 #4

ช่วย หน่อยครับหมอ
Sky *****k

30 กรกฎาคม 2560 14:28:01 #5

ขอตอบกลับ จขกท. เนื่องจากเคยเจอกรณีแบบนี้มากับตัวนะคะ ตอนนั้นเรากับแฟนมีSEX โดยการสอดใส่ซึ่งมีน้ำหล่อลื่นแฟนอยู่ที่อวัยวะเพศของเขา แล้วก็ลองสอดเข้าไป แต่เราเกิดเจ็บก่อน เขาเลยถอด จากนั้นเราทั้งสองก็กังวลค่ะ เลยมั่นหน้าไปปรึกษาเภสัชกร เขาก็บอกมาว่า ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายก็อาจจะมีน้ำอสุจิปะปนอยู่ แต่ไม่มาก (หากไม่แข็งแรง) ผู้หญิงของไม่ท้องค่ะ แต่ถ้าบังเอิญมันแข็งแรง ก็อาจเป็นไปได้ที่อาจจะท้อง เราเลยซื้อยาฉุกเฉินมากินค่ะ เป็นการป้องกันแบบฉุกเฉินไปก่อน 

**ขอบคุณที่รับฟังความคิดเห็นค่ะ**

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 กรกฎาคม 2560 09:46:00 #6

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

1 สิงหาคม 2560 11:24:37 #7

ถ้าหากทานยาคุมฉุกเฉินไปเเล้วหล่ะครับ จะเป็นอะไร หรือเปล่าครับหมอ
Anonymous

2 สิงหาคม 2560 10:39:39 #8

ช่วยหน่อยนะครับ
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

11 สิงหาคม 2560 19:08:49 #9

หากทานไปแล้วก็ไม่เป็นอะไรครับ แต่อาจมีผลข้างเคียงของยาได้ เนื่องจากในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ