กระดานสุขภาพ

ประสิทธิภาพของยาคุม
Anonymous

2 กรกฎาคม 2560 05:53:26 #1

หนูกินยาคุมยาสมิน21เม็ดมาแผงที่ 9 แล้วค่ะโดยมาจะใช้ถุงยางร่วมด้วย มีน้อยครั้งจริงๆที่จะไม่ใช้ คำถามของหนูคือ ถ้ากินยาคุมทุกวันต่อเนื่อง เวลา 23.00 ถ้ากินยา เคลื่อนบ้างอย่างมาก20 นาทีมีผลทำให้ประสิทธิภาพการ คุมกำเนิดลดลงมั้ยคะ แล้วหากไม่ได้ใช้ถุงยางตอนกินเม็ดที่11จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้มั้ยคะ กินยาต่อเนื่องกันแบบนี้ป้องกันได้ทุกวันรึป่าวคะ เมื่อเดือนที่แล้วตรวจน้ำตาล ผลคือน้ำตาลหลังอดอาหารเท่ากับ 94mg/dL และ น้ำตาลเฉลี่ยนสะสม(HbA1C) 6.0 H% คำถามคือยาคุมมีผลต่อน้ำตาลในเลือดมั้ยคะ หนูมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานรึป่าว และยาคุมมีผลต่อการลดน้ำหนักทำให้น้ำหลักลงยากนั้นจริงหรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 99 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 35.50 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

9 กรกฎาคม 2560 19:54:51 #2

เรียน คุณ 6b64a,

ขอแยกตอบตามประเด็นคำถามนะครับ

1. เมื่อรับประทานยาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ยาจะออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง โดยที่ต้องรับประทานยา Ya.. 21 เมื่อยาหมดแผง ให้เว้นรับประทานยา 7 วัน แล้วจึงเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อไป ตัวยาจึงจะออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้อย่างต่อเนื่อง และควรรับประทานยาคลาดเคลื่อน ไม่เกิน +/- 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ต่อเนื่องตลอดวัน และป้องกันการลืมรับประทานยา
และเมื่อรับประทานยาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอแล้ว โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์มีน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยนะครับ ยกเว้นว่าเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

2. ประเด็นเรื่องภาวะน้ำตาลสะสมสูงนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุนะครับ แต่พบค่อนข้างน้อยที่เกิดจากการรับประทานยาคุมกำเนิด ส่วนเรื่องความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน มีหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม พฤติกรรมสุขภาพ (ชอบรับประทานจำพวกแป้ง หรืออาหาร/เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง)

การไม่ชอบออกกำลังกาย ทำงานจำพวกนั่งอยู่กับที่ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว
ปัจจัยพวกนี้นอกจากเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนอีกด้วย เรื่องความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานนั้น แนะนำให้สอบถามจากแพทย์จะดีกว่าครับ
ส่วนที่ยาคุมกำเนิดมีผลก็คือทำให้เกิดการสะสมน้ำ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้เกิดการสะสมน้ำ เพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลแบบผู้หญิง ดังน้ันจึงควรงดอาหารรสเค็มหรือมีเกลือโซเดียมสูง เนื่องจากโซเดียมจะทำให้ร่างกายเกิดการเก็บกักน้ำ เกิดภาวะบวมน้ำ หรือเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงได้

แนะนำเพิ่มเติม คือ ควรรับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิด อาจทำให้การดูดซึมยาเปลี่ยนแปลงไป เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ต) น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะทำให้ตัวยามีการถูกกำจัดได้มากหรือเร็วขึ้น เช่น น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต หรือน้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น หรือยาบางชนิดน้ำแร่ก็มีผลต่อการดูดซึมของยาด้วย เช่น ยาที่ช่วยป้องกัน/รักาภาวะกระดูกพรุนกลุ่ม บิสฟอสโฟเนต เป็นต้น

- รับประทานยาอย่างสมำ่เสมอ เวลาไม่ควรคลาดเคลื่อนเกิน 1 ชั่วโมง

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกันโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เสี่ยงต่อการใช้ยาไม่ได้ผล หรือเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

รู้ทันโรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์(พิเศษ) นาวาอากาศโท แพทย์หญิง ธัญญา เชฏฐากุล
แพทย์โรคต่อมไร้ท่อ