กระดานสุขภาพ

กลัวเป็นโรคที่ทวารหนัก
Anonymous

19 พฤษภาคม 2560 11:43:31 #1

คือ ผมเป็นเกย์ แล้วไปมีอะรัยกับผู้ชายมา ตอนแรกใส่ถุงยาง พอทำไปสักแปป ผู้ชาย ถอดถุงออก แล้ว มีอะรัยกัน พอจะเสร็จเขาชักออกมาแตกข้างนอก ผ่านไปหนึ่งวัน ผมขึ้นดอยไปจัดบูธ งานช่วยเหลือคน แล้ว ไม่รู้เป็นเพราะอะรัย เริ่มแสบทวารหนัก มีอาการแสบๆร้อน เจ็บๆ พอกลับมาหอ ปวดท้องถ่าย ผมเข้าห้องน้ำถ่าย ถ่ายไม่ค่อยออก เจ็บถวาร มากปวดมากถ่ายไม่ค่อยจะออกพอผ่านไป สองวัน ไม่หายเจ็บเหมือนเดิม ผมสังเก็ตดูอุจระตัวเอง มีเหมือนเมือกขาวๆเกาะอยู่ ผมคิดว่าเป็นเชื้อราในทวาร แต่ไม่ใช่ ผ่านไปอีกวัน ผมรู้สึกปวดท้อง ถ่ายไม่ถ่าย แตะที่ทวารดูว่ามีอุจระไหม ไม่มี มีแต่ เมื่อกเหลืองออกมานิดเดียว ผมก่กังวล ไม่รู้จะไปปรึกษาที่ไหน ก่เลยรอมันหายเอง มันถ่ายเฉพาะอาการเจ็บปวด เวลาถ่ายก่เจ็บอยู่เหมือนเดิม ผ่านมาสักอาทิตกว่า ผมสังเก็ตดูถ่ายออกมาเป็นเหมือดกับอุจระ ออกมาเหมือนเดิม และก่มีอาการปวดถ่ายแต่ไม่ถ่ายพอลูบดูมีเหมือก ผสมกับเลือด อ่ะคับ จะเป็นโรคอะรัยรึป่าว
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

19 พฤษภาคม 2560 11:52:07 #2

[ต่อกระทู้] มีอาการเจ็บเวลาถ่ายต้องเบ่งออกอย่างมากและมีเหมือกเหมือนหนองผสมกับเลือดนิดๆ ผมกลัวจะเป็น หนองใน ทวารหนักคับ ช่วยตอบหนนช่อยน่ะคับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 พฤษภาคม 2560 08:56:37 #3

การที่มีการสอดใส่ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยาง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อสูง อาการที่มีเมือกหรือหนองหรือเลือดปนมาในอุจจาระ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อ ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่จากคู่นอน เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน โดยสรุป อาจจะเกิดจากการติดเชื้อหนองในหรือหนองในเทียม แนะนำหาหมอ และควรจะตรวจเลือเอดส์และซิฟิลิสด้วยเพราะมีการศึกษาพบว่าในชายรักร่วมเพศมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ