กระดานสุขภาพ

อาการเชื้อราในช่องคลอด
Leal*****n

20 เมษายน 2560 12:21:55 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ปีที่แล้วดิฉันไปตรวจภายในจึงเจอว่าเป็นเชื้อราในช่องคลอด คุณหมอเลยจ่ายยาคาเนสเทนแบบ 1 เม็ดมาให้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันมีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศติดต่อกันหลายวัน และมีตกขาวร่วมด้วย จึงได้ไปซื้อยาแบบเดิมมาใช้อีกครั้งค่ะ

ปรากฏว่าเช้าหลังจากสอดยามีแป้งขาวๆ ไหลออกมา ทราบว่าน่าจะเป็นปกติเวลาตัวยาละลาย ไม่มีอาการคันแล้ว แต่ครั้งนี้มีอาการแสบบริเวณปากช่องคลอดตามมาค่ะ เวลาคราบแป้งไหลออกมาทีก็จะแสบที แต่ถ้าทำความสะอาดก็จะหายแสบค่ะ ผ่านมา 2 วันแล้วก็ยังเป็นอยู่ จึงอยากถามว่านี่เป็นอาการปกติหรือไม่คะ เป็นผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ยาหรือเปล่า ร้ายแรงหรือไม่ และควรทำยังไงคะ

อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.82 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

22 เมษายน 2560 05:37:05 #2

อาการคันในช่องคลอดส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันตกขาวผิดปกติมีลักษณะคล้ายก้อนนมบูดไหลออกมาทางช่องคลอด ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันที่บริเวณผิวหนังหรืออวัยวะเพศภายนอกด้วย นอกจากนี้ อาจจะทำให้เกิดอาการแสบเมื่อปัสสาวะได้เช่นกันเพราะผิวหนังภายนอกมีอาการบวมแดงอักเสบ คุณสามารถหาซื้อยาสำหรับเชื้อรามาทาภายนอกได้ เพื่อบรรเทาอาการคันและอาการแสบ แต่ถ้ามีแผลภายนอกร่วมด้วยเมื่อโดนน้ำมีอาการเจ็บแสบมากและมีอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยเรื่อย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป เพราะอาจจะไม่ใช่เชื้อราตามปกติแต่มีการติดเชื้ออื่นร่วมด้วย เช่น เชื้อเริม เป็นต้น การสอดยาทางช่องคลอด ควรสอดนาน 6 คืน ไม่ควรสอดเพียง 1 คืนเพราะประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อราจะไม่ดีเท่าการสอดเป็นระยะเวลานานโดยใช้ยาโคลไทมาร์โซลในขนาด 100 mg สอดคืนละ 1 เม็ด นาน 6 คืน จะสามารถฆ่าสปอร์ ซึ่งแตกออกเป็นเชื้อราภายหลังได้ดีมากกว่าค่ะ