กระดานสุขภาพ

สงสัยว่าจะ้เป็นอาการแพ้ยาคุมหรือเปล่า
Dayl*****t

24 กุมภาพันธ์ 2556 05:01:47 #1

เรียนคุณหมอ

  ท้าวความก่อนว่ายาคุมแรกที่กินเลยคือไดแอนคะ ที่ไม่กินต่อเพราะ มีอารมณ์แปรปรวนง่ายมาก หงุดหงิดมาก เลยไปปรึกษาเภสัช เลยให้กินเมลลิแอน กินได้ประมาณ 3 ปีเศษได้คะ และก็หยุดกินยาไปเพราะเป็นไมเกรน ปวดหัวมาก ก่อนมีประจำเดือน ไปหาหมอคะ หมอบอกว่า ฮอร์โมนสวิงสูงเร็วเกินไป จึงทำให้ไมเกรนกำเริบขึ้นมาคะ เลยหยุดยา และเปลี่ยนมาเป็น เมลซิลอน แต่มีสิ่งปกติเกิดขึ้นคือ มีเลือดออกกระปิดกระปอย แม้ว่า จะกินยาตรงเวลาทุกวันและ สิวขึ้นเป็นสิวอักเสบบริเวณคางและแก้ม กินได้ แค่3 แผงจึงหยุดกิน

และสุดท้ายล่าสุดคะ ได้ใช้ยาสคะ ทีนี้หนักกว่าเดิมคะ คือ สิวผด และสิวอักเสบ มีสิวผดขึ้นบริเวณ แก้มทั้ง 2 ข้าง รามไปยังคาง มีสิวอักเสบร่วมด้วย และที่หน้่าผากมีสิวอักเสบอีกคะ สิวขึ้นเต็มหน้าเลยคะ เครียดมาก  หน้ามันขึ้นกว่าเดิมคะ แต่ไม่ปวดหัวไมเกรนคะ

อยากจะถามคุณหมอว่า อาการที่เกิดขึ้นแพ้ยาคุมใช่ไหมคะ แล้วจะทำอย่างไรดีคะ หน้ามีแต่สิวอะคะ

รบกวนคุณหมอแนะนำยาคุมให้สักตัวได้ไหมคะ เครียดมากจิงๆ 

ใช้ยาตัวไหนดีคะตอนนี้ที่จะทำให้สิวยุบ อะคะ 

รบกวนด้วยคะ

ขอบคุณคะ

  

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

26 กุมภาพันธ์ 2556 11:07:49 #2

เรียน คุณ daylight,

ไม่ทราบว่าปกติมีอาการไมเกรนเป็นพื้นฐานอยู่แล้วหรือไม่ครับ เนื่องจากยาคุมเกือบทุกตัวมีข้อควรระวังในผู้ป่วยไมเกรนอยู่แล้ว เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้นจะทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอาการไมเกรนเพิ่มขึ้นด้วย

  • ยา meliane ที่คุณได้รับในช่วงแรก มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม จึงเกิดได้บ่อยเกือบทุกเดือน
  • ยา mercilone ที่คุณหมอปรับให้ มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 20 ไมโครกรัม ไม่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน เพียงพอต่อการคุมกำเนิด แต่อาจไม่เพียงพอต่อการหนาตัวของเืยื่อบุผนังมดลูก ทำให้มีการหลุดลอกก่อนกำหนด จึงทำให้เกิดมีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอย


ส่วนฮอร์โมนอีกตัว คือ desogestrel พบว่ามีส่วนคล้ายกับฮอร์โมนเพศชาย จึงอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น

  • yaz ตัวสุดท้าย เป็นยาที่มีเอสโตรเจนเพียง 20 ไมโครกรัม จึงไม่น่ากระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนเพิ่มขึ้น

 

ส่วนฮอร์โมนอีกตัว drospirenone ไม่คล้ายกับฮอร์โมนเพศชาย ไม่เพิ่มน้ำหนัก การเกิดสิว หรือฝ้า โดยตัวยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาคุมกำเนิดที่ใช้รักษาสิวด้วยนะครับ จึงไม่น่าเป็นสาเหตุในการเกิดสิวของคุณ

หากเป็นแผงแรก แนะนำให้รับประทานต่อนะครับ สิวที่อุดตันอยู่น่าจะค่อย ๆลดลงไป เนื่องจากเดิมมีสิวอุดตันอยู่ใต้ผิว
ค่อย ๆเร่งการผลัดผิว อาจทำให้ดูเหมือนสิวเพิ่มขึ้นได้ครับ อาจใช้ยาแต้มสิว เพื่อลดอาการอักเสบ และงดการแกะ หรือบีบสิว เนื่องจากจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวจากการระคายเคืองเพิ่มเติมได้

ถ้ารับประทานไปแล้ว 2-3 แผง อาการสิวยังไม่ดีขึ้น ต้องไปพบแพทย์เพิ่มเติมนะครับ เพื่อหาสาเหตุของสิว ซึ่งอาจเกิดจากอาการแพ้เครื่องสำอาง ของใช้ หรือน้ำยาซักผ้าก็ได้

หรือถ้าไม่ต้องการมีบุตร ส่วนใหญ่ถ้าเกิน 5 ปี แพทย์มักแนะนำให้ทำหมันจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องรับประทานยาคุมกำเนิดนาน ๆโดยไม่จำเป็น

 

เภสัชกรประดิษฐ์์ งามศิริผล