กระดานสุขภาพ

หมดช่วยหน่อยครับ
Anonymous

9 กุมภาพันธ์ 2560 07:48:16 #1

มีตุ่มแดงๆที่โคนอวัยวะ 2ตุ่มเจ็บมาก แล้วก็มีหนองออกมา
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 100 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.86 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 กุมภาพันธ์ 2560 14:06:21 #2

ตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณโคนอวัยวะเพศ เจ็บและมีหนอง ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติตต่อ เชาย เริมซึ่งถ้าเป็นเริม
รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ
เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน
ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir
200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม
ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง หรืออาจจะเป็นตุ่มที่เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อกันได้ เช่น หิด แต่จะมีอาการคันและมีตุ่มคันตามรอบเอว ง่ามนิ้วร่วมด้วย โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้วยครับ