กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาแปลกค่ะ
Anonymous

28 มกราคม 2560 10:00:53 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอเจ้าเรื่องเลบค่ะ ประจำเดือนของเราเดือนที่แล้วค่ะ มาวันที่4และหมดไปในวันที่10ค่ะและเดือนนี้ค่ะ มาวันที่4ม.ค. เช่นกันเลยค่ะ และหมดวันที่ 9-10ม.ค. และเรากำลังรอรอบถัดไปแต่ว่าเมื่อวันที่25ที่ผ่านมาของเดือน ม.ค. เราเห็นที่ กกนมีเลือดออกมาเป็นหนืดๆออกมาไม่เยอะค่ะเป็นแบบนี้มา 25 26 27 อยากทราบว่ามันเป็นอะไรตอนนี้ยังไม่เห็นว่าเลือกออกมาค่ะแต่รอดูไปก่อนซึ่งสีเลือดก็น้ำตาลๆแดงๆอ่ะค่ะเลยอยากมาถามว่ามันอันตรายไหมเราไม่ได้มี พสพกับใครค่ะมีแต่การช่วยตัวเองและไม่สอดใส่ด้วย่ค่ะแต่เราอยากมาตั้งถามอีกว่าอย่างนี้จะท้องได้ไหมค่ะ ถ้ามีคนในบ้านช่วยตัวเองและเขาไปจับที่ล้างมือหรืออะไรก็ตามแล้วหลังจากนั้นเราไปจับเพื่อที่จะล้างมืออสุจิตะติดมาไหมค่ะทำให้ท้องได้ไหมค่ะเพราะเรากังวลเรื่องนี้และเราก็กลัวว่าเลือดที่ออกมาคือเลือดช้างหน้าเด็กขอคำตอบแบบละเอีอดเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
อายุ: 15 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.19 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

1 กุมภาพันธ์ 2560 09:46:03 #2

จากที่กล่าวมา หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น หรือ กังวลเพียงเรื่องอสุจิที่อยู่นอกร่างกายตามที่กล่าวมานั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ การใช้นิ้วสอดใส่ไปในช่องคลอดนั้น ปกติแล้วมีโอกาสน้อยมากครับที่จะทำให้มีอาการเลือดออก ปวดท้องน้อยหรือตกขาวที่เป็นอาการของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน แต่หากมีการสอดใส่นิ้วที่ไม่สะอาดหรือมีอุปกรณ์อื่นๆเข้าไปในช่องคลอด อาจทำให้มีเลือดออกมาได้ อาจมีอาการปวดในช่องคลอด หรือหากถ้ามีอาการมาก ก็อาจมีอาการที่หมอกล่าวไปได้ ดังนั้น หมอแนะนำ ให้สังเกตุอาการก่อนได้ครับ หากมีอาการปวดท้องน้อยหน่องๆไปช่องคลอด หรือ อุ้งเชิงกราน มีตกขาวหรือเลือดออกร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์นะครับ และ ทุกครั้งที่มีการสอดใส่นิ้วก็ควรทำความอวัยวะเพศ ล้างมือและตัดเล็บให้สั้น เพื่อลดโอกาสดังกล่าวครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ

สุดท้ายหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ