กระดานสุขภาพ

ปรึกษาอาการมีเลือดสีน้ำตาล
Anonymous

19 มกราคม 2560 11:25:28 #1

สวัสดีครับ 

ผมมีอะไรกับแฟนวันที่ 06/01/17 และ 12/01/17

วันที่ 13/01/17 เป็นต้นไป เริ่มมีเลือดกระปิดกระปอยนิดหน่อยสีน้ำตาลออกมา (ตอนนั้นตัวผมยังไม่ทราบ)

และวันที่ 17/01/17 ก็ได้มีอะไรกันอีก พอเสร็จภารกิจก็สังเกตุเห็นว่ามีมีเลือดสีน้ำตาลเข้มติดอวัยวะเพศของผมออกมา(ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะครับ)

วันที่ 18/1/17 ก็ยังมีเลือดสีน้ำตาลออกมาอีกในปริมาณที่น้อยในช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็มีเลือดสีแดงแต่ไม่สดออกมาปริมาณที่น้อย

วันที่ 19/01/17 ช่วงเช้ามีเลือดออกในปริมาณที่มากขึ้น ประกอบกับปวดท้องน้อยนิดๆ ช่วงบ่ายไม่อาการอะไรเลย ตอนนี้รอดูอาการเพิ่มเติมอยู่

จากข้อมูลข้างต้นพอจะวินิจฉัยอะไรได้บ้างไหมครับ คือผมเป็นห่วงเเฟนครับกลัวจะเป็นอะไรที่ไม่ดี ตอนนี้เลยเข้ามาปรึกษาก่อน เบื้องต้นไม่อยากทำอะไรให้มันเอิกกะเหริก กลัวว่าแฟนผมเขาจะเครียดครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ

 

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

21 มกราคม 2560 15:11:26 #2

ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่เป็นไปได้ของเลือดออกผิดปกติหลังจากการมีเพศสัมพันธ์นั้น มักมาจากความผิดปกติบริเวณปากมดลูกหรือช่องทางคลอดครับ อาจเป็นรอยโรคที่บริเวณปากมดลูก เช่น ต่ิงเนื้อ (polyp) ปากมดลูกมีเนื้อเยื่อผิดปกติ เป็นต้นครับ ดังนั้น ควรมาตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อจะได้หาสาเหตุครับ ส่วนหากลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น มีลักษณะที่มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ