กระดานสุขภาพ

ปวดประจำเดือนจนเกือบเป็นลม
Anonymous

21 ธันวาคม 2559 10:18:10 #1

ข้อมูลโดยคราวๆ อายุ 20 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนมาครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี มาบ่อย เดือนละ 2 ครั้ง เคยไปพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่าเป็นฮอร์โมน จนอายุ 19 ปี เรียนว่ายน้ำ จึงกินยาเลื่อนประจำเดือน ประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้น ประจำเดือนก็มาเดือนละครั้ง อย่างสม่ำเสมอค่ะ ตอนนี้เลิกกินยาเลื่อนประจำเดือนมาประมาณ 6 เดือนประจำเดือนครั้งล่าสุดมาวันที่ 10 ธันวาคม มีอาการปวดท้องประจำเดือนมากกก ซึ่งปกติไม่เคยปวดมากขนาดนี้ ร่วมกับมีอาการเหงื่อออก หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม เป็นอยู่ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นก็ปวดนิดหน่อย และไม่ปวดอีกเลย จนวันที่ 3 ของเดือน พบก้อนเนื้อขนาดประมาณ 1*1 ซม. หลุดมากับประจำเดือน แต่ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ การที่ก้อนเนื้อหลุดออกมากับประจำเดือนเคยเกิดขึ้น เมื่อปีกว่า และเมื่อครั้งประจำเดือนมาตอนอายุ ประมาณ17 ลักษณะของก้อนเนื้อ คล้ายตับหมู และประจำเดือนไม่ได้มามากผิดปกตินะคะ อยากทราบว่ามันอันตรายไหมคะ พอจะลองวินิจฉัยโรคได้ไหมคะ ??? ขอเสริมค่ะ ก่อนหน้านี้ออกกำลังกายทุกวัน จนก่อนประจำเดือนมา 2 อาทิตย์ไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ เพราะติดสอบ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

23 ธันวาคม 2559 04:16:54 #2

อาการปวดประจำเดือนน่าจะเกิดจากการสร้างสารพลอสตาแกลนดินที่มีปริมาณมากจากผนังเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนมากได้ เพราะคุณอายุยังน้อยโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติที่รุนแรงจะมีน้อยมาก หรืออาจจะเกิดจากถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่าชอกโกแลตซีสต์ ซึ่งสามารถทำการวินิจฉัยได้โดยการตรวจอัลตราซาวด์ ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะนี้สามารถรักษาโดยการใช้ฮอร์โมนได้ การที่มีประจำเดือนมามากอาจจะพบเป็นลิ่มเลือดคล้ายตับหมูออกมาได้ เพราะร่างกายจะพยายามห้ามเลือดโดยการสร้างลิ่มเลือดไว้ ถ้ารอบเดือนมามากและปวดท้องเป็นประจำก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์เพือ่ดูว่ามีความผิดปกติใดหรือไม่ และอาจจะทานยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อลดปริมาณประจำเดือนและลดอาการปวดท้อด้วย สามาถรปรึกษาแพทย์ได้เพือ่ทำการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ