กระดานสุขภาพ

เป็นแผลที่อวัยวะเพศ ชาย ไม่ทราบว่าเป็นอะไรครับ
Anonymous

8 พฤศจิกายน 2559 05:35:28 #1

เป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย ไม่แสบ ต่อมนำ้เหลืองที่ขาไม่โต ในช่วงแรกเป็นเหมือนผื่นแดงครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814-4.jpeg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814-1.jpg

ผื่นช่วงแรกครับ หลังนั่น3-4 วันครับ เหมือนหนังลอกอออกมา

http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814-3.jpg

รูปหลังจากผ่านมา 5วันครับ ไปพบแพทย์มา คุณหมอจ่ายยา bactrim มาให้ครับ (ในช่วงก่อนหน้า มีทานยาไมเกรน ยาแก้ปวด และมีเพศสัมพันธ์) เลยไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไรครับ
อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 พฤศจิกายน 2559 03:45:18 #2

มีรูปที่เป็นอวัยวะเพศหญิงด้วย คิดว่าคงไม่ใช่่ของรายนี้ http://haamor.com/media/images/webboardpics/256e8_32814-4.jpeg
ตอบ
ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลและมีรอยดำๆรอบแผล ลักษณะคล้ายแผลที่เกิดจากการแพ้ยา ลองนึกดูว่าก่อนเป็นแผล ซึ่งจากที่เล่ามา ได้ยากิน Bactrim ซึ่งมีส่วนผสมของซัลฟาที่อาจจะทำให้แพ้ได้ ซึ่งการแพ้ยาจะเริ่มต้นด้วยมีอาการคัน ตามดวยมีตุ่มน้ำพองคล้ายโดนน้ำร้อนลวก ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มพองแตกกลายเป็นแผล รักษาโดยต้องหยุดกินยาที่สงสัยว่าจะแพ้ทันที กินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ใช้น้ำเกลือล้างแผลที่ซื้อตามร้านขายยาล้างแผลเช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น triamcinolone หรือ betamethasone ทาบางๆ เช้าเย็น อาการน่าจะดีขึ้นใน 7-14 วัน และเมื่อหายแล้วต้องระวังอย่าไปกินยาที่สงสัยว่าจะแพ้อีก เพราะอาการแพ้จะเป็นอีกและอาจจะเป็นมากขึ้น ในกรณีที่ก่อนเป็น ถ้าคุณมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือมีคู่นอนหลายคน เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะต้องระวังเรื่องโรคติดต่อ เช่น เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่นมีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง
ส่วนแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์)โดยสรุป ถ้าไม่มีความเสี่ยง อาจจะเกิดจากการแพ้ยา แต่ถ้ามีความเสี่ยง แนะนำหาหมอครับ

Anonymous

9 พฤศจิกายน 2559 05:39:04 #3

ยา bactrim ผมได้รับหลังจากพบแพทย์ผิวหนัง หลังจากที่แผลลอกครับ ถ้าอย่างนี้ผมควรหยุดกินยา bactrim หรือกินให้ครบโดสครับ แล้วลักษณะนี้ไม่ใช่แผลริมอ่อน หรือเริมใช่ไหมครับ
Anonymous

9 พฤศจิกายน 2559 05:47:24 #4

แผลที่เป็นในปัจจุบันไม่มีอาการแสบ นอกจากใช้น้ำเกลือเช็ดจะแสบนิดหน่อย ต่อมน้ำเหลืองไม่โต และผมควรเปลี่ยนแพทย์ที่ให้การรักษาไหมครับเพราะคุณหมอนัดดูอาการอีกหนึ่งอาทิตย์ พอจะมีแพทย์เฉพาะทางอนะนำไหมครับ อยู่แถวฝั่งธน