กระดานสุขภาพ

แผลร้อนในบริเวณอวัยวะเพศ
Anonymous

16 ตุลาคม 2559 19:23:00 #1

ปกติก่อนจะมีอะไรกันผมจะทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง แฟนผมเป็นแผลบริเวณเข่าจึงไม่ได้อาบน้ำ เพียงแต่เช็ดตัวเท่านั้นและเราก็มีอะไรกันหลายครั้ง แต่พอนานๆเข้า หลังจากนั้นอวัยวะเพศชายของผมในบริเวณปลายหนังหุ้มเกิดอาการบวม ปวด มีรอยแตก ผมจึงได้หยุดทำกิจกรรมทางเพศ 4-5 วัน ต่อมาเริ่มอาการของผมเริ่มดีขึ้น ได้กลับมาทำกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากทำครั้งนั้น ผมรู้สึกแสบที่หนังหุ้มปลายอวัยวะ เกิดรอยแตกดังเดิม มีอาการคันเล็กน้อย ส่วนแฟนของผมรู้สึกเจ็บที่แคม และตอนทำก็เจ็บข้างในด้วย พอเกิดอาการดังนี้ก็งดกิจกรรมต่างๆทั้งสิ้น ผมกับแฟนก็ต่างมีอาการแสบเวลาปัสสาวะ หรือเวลาสัมผัส ในตอนแรกคิดว่าเกิดจากฉีกขาดเพราะกิจกรรมทางเพศ ทำความสะอาดและปล่อยไว้คงหายเอง แต่พอผ่านมาอาทิตย์ยังไม่ดีขึน และถึงได้รู้ว่าแผลเกิดขึ้นลักษณะคล้ายแผลร้อนใน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็น"แผลริมอ่อน"

อยากให้คุณหมอช่วยยืนยันว่าเป็นโรคอะไรตามภาพที่แนบไว้ และมียาอะไรแนะนำให้รับประทานหรือทาในเบื้องต้นบ้าง เท่าที่ศึกษามาก็มี vilerm acyclovir เอาไว้ทา และ acyclovir เอาไว้รับประทาน ยาเหล่านี้จะช่วยให้หายได้หรือไม่อย่างไรครับ รบกวนคุณหมอแนะนำตามที่เห็นในภาพและรายละเอียดที่เล่าให้ฟังครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/ZVfbag-32236-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/ZVfbag-32236-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/ZVfbag-32236-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/ZVfbag-32236-4.jpg

อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

16 ตุลาคม 2559 19:32:24 #2

เนิ่องจากผมแก้ไขกระทู้ไม่ได้จึงได้พยายามลงภาพให้คุณหมอเห็นได้โดยง่าย แต่ไม่สามารถทำได้จริงๆ จึงรบกวนคุณหมอก็อบลิงค์รูปภาพไปวางในช่อง search เพื่อดูรปภาพอาการ

ปล.ชุดภาพเดียวกันแต่อัพคนละเว็ปไซด์ครับ เลือกอันไดอันหนึ่งมีเพียง 4 รูปเท่านั้น 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

21 ตุลาคม 2559 03:40:38 #3

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลเล็กๆตื้นๆหลายแห่งที่อวัยวะเพศทั้งชายและหญิง เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก

โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล โดยสรุป น่าจะเป็นเริม แนะนำหาหมอครับ