กระดานสุขภาพ

ถามข้อสงสัยเรื่องอาการของโรคเริม
Anonymous

25 สิงหาคม 2559 08:12:11 #1

คือผมกำลังสงสัยว่าตัวเองจะเป็นเริมครับ เพราะที่หนังหุ้มมีอาการคันเล็กน้อย เป็นครั้งคราวเมื่อเปิดดูก็พบรอยแดงเป็นวงกว้างจึงเอามือถูเบาๆ จากนั้นเช้ามาก็ช่วงตัวเองโดยการเอาอวัยวะเพศไปเสียดสีกับกางเกงและหมอนข้างครับ ช่วงบ่ายสังเกตุเห็นเหมือนมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นประมาณ 3-4 ตุ่ม เมื่อเอามือไปสัมผัสเบาๆ ก็แตกกลายเป็นแผลเล็กมากๆ คราวที่แล้วเคยเป็นครั้งนึงหลังจากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครับ

ผมขอสอบถามข้อมูลจากคุณหมอเพื่อเป็นแนวทางการรักษาเริมครับ

1.หลังจากติดเชื้อในครั้งแรกนี้กี่วันถึงจะเริ่มแสดงอาการและแผลออกมาครับ ?

2.ในการเป็นซ้ำแผลจะขึ้นพร้อมกันในครั้งเดียวหรือค่อยๆ ทะยอยขึ้นครับ ?

3.ระยะห่างของการเกิดซ้ำของโรคใช้เวลากี่วัน จึงจะสามารถเป็นซ้ำได้ครับ ?

4.แผลเริมจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้หรือไม่ครับ ?

5.การเกิดซ้ำของโรคในครั้งถัดไปจะเกิดที่เดิม หรือว่าสามารถเกิดได้ทุกที่ในบริเวณอวัยวะเพศครับ ?

6.เริมที่ปากสามารถติดที่อวัยวะเพศได้หรือไม่ ? (เนื่องจากทางบ้านแฟน ทั้งแม่และพี่ชายเค้าต่างมีประวัติเคยเป็นเริมที่ปากมาก่อนแต่หายมาหลายปีแล้ว แต่แฟนผมไม่เคยมีอาการเลยครับ) การมีเพศสัมพันธ์ก็มีการทำ Oral Sex ให้เป็นประจำ

7.ถ้าหากเกิดแผลเริมที่หนังหุ้มปลาย สามารถขลิปออกเพื่อลดการเกิดแผลในบริเวณนั้นได้หรือไม่ครับ ?

 

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 สิงหาคม 2559 04:55:57 #2

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ส่วนเรื่องแผลเริมที่ปาก ถ้าไม่ได้มีการสัมผัส ก็ไม่ติด แต่ต้องระวังว่าอาจมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศด้วยหรือไม่ ส่วนคำถามที่ถามมา เรื่องการเป็นซ้ำนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นชนิดของเชื้อ ถ้าเป็นชนิด type 2 จะเป็นซ้ำกว่าชนิด type1 ถ้าภูมิต้านทานต่ำก็จะเป็นซ้ำบ่อยกว่า เป็นต้น การขลิบหนังไม่ได้ช่วยให้การเป็นซ้ำลดลง และการเป็นซ้ำจะเป็นใกล้เคียงกับบริเวณเดิมที่เคยเป็นและจะไม่เป็นแผลเป็นยกเว้นในกรณีที่มีการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทำให้เป็นแผลติดเชื้อลึก ก็อาจจะเป็นแผลเป็น ในกรณีที่เป็นบ่อยมาก เช่น ปีละ 8 -10 ครั้งขึ้นไป สามารถกินยา acyclovir ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 1 ปี สามารถลดเหลือ 3-4 ครั้งต่อปี แนะนำหาหมอครับ