กระดานสุขภาพ

แผลกับสมุนไพร
Anonymous

24 สิงหาคม 2559 06:59:19 #1

-เป็นแผลที่อวัยวะเพศมาเกือบ 1 เดือน  ไม่เจ็บหรือคันแผล (ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นโรคทางเพศสัมพันธใดๆมาก่อน และผู้ที่มีความเสี่ยงด้วย เมื่อ 2 เดือนก่อน ปัจจุบันยังไม่เคยเป็นโรคทางเพศสัมพันธใดๆมาก่อนเช่นกันครับ) /แต่เคยเที่ยวเมื่อต้นเดือน ม.ค.

-ลองไปตรวจ vdrl ครั้งแรกหลังเป็นแผลเกือบ 3 สัปดาห์ ผลเป็นลบ

*แผลที่อวัยวะเพศที่เป็นอยู่ แต่ก่อนหน้าที่เป็นจนปัจจุบันทานสมุนไพรมาตลอด(เหงือกปลาหมอ) จะมีผลกับแผลหรือทำให้ผลตรวจเลือดเพี้ยนไปได้บ้างหรือเปล่าครับ  

ปล.ไม่ได้โฆษณาแฝงใดๆ ให้ข้อมูลเพิ่มเพื่อการวินิจฉัยครับเท่านั้นครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

24 สิงหาคม 2559 23:57:09 #2

ล่าสุดหลังเข้าสัปดาหที่4ของการเป็นแผล เหมือนแผลดีขึ้นเรื่อยๆแดงน้อยลง ถ้าไม่ต้องพบแพทยแล้วก้ได้หรืเปล่าคับ ถึงแม้อาจะเป็นเริม หรือโรคทางเพศอื่นๆ หรือว่ายังควรไปพบแพทยอยุ่คับ แต่หากอาจะเป็นโรคซฟิลิส ควรไปตรวจ vdrl อีกเมื่อไหร่ดีคับ. ก่อนที่จะออกดอกเข้าระยะที่สองนะคับ/ ขอบคุณคับ
Anonymous

25 สิงหาคม 2559 09:01:09 #3

วันนี้มาหาหมอ ดูแผลและเล่าประวัติอาการต่างๆ แล้วหมอคิดว่าไม่น่าเป็นซิฟิลิส และไม่ได้ให้ตรวจเลือดหรือให้ยาอะไรเลยคับ หมอคิดว่าอาจจะเป็นการอักเสบธรรมดา แต่ที่แปลกคือหายช้าเท่านั้นคับ, หมอแจ้งว่าถ้าเป็นซิฟิลิสผลเลือดน่าจะเป็นบวก แต่ค่าอาจจะแตกต่างกันไป, ปล.สมมติถ้าเป็นซิฟิลิสจริงควรตรวจ vdrl ช้าสุดเมื่อไหร่ ก่อนจะเข้า ออกดอก ระยะที่2 จึงจะได้ผลบวกคับ/ ขอบพระคุณคับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 สิงหาคม 2559 09:29:19 #4

แผลที่เป็นที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน

1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น
มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) ซึ่งการตรวจเลือด VDRL จะหม้ผลบวกหลังจากเป็นแผลแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์
ในกรณีของคุณที่เป้นแผลมาหลายอาทิตย์ ก็ไม่น่าจะเป็นเริม แนะนำตรวจเลือด VDRL อีกครั้ง ถ้ายังลบอีก ก็อาจจะไม่ใช่ซิฟิลิส ส่วนคำถามเกี่ยวกับการกินสมุนไพรนั้น ไม่มีผลต่อการตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส ในกรณีที่ไม่ใช่ทั้งเริมและซิฟิลิส สาเหตุอื่นๆที่พบได้ เช่น การระคายเคืองต่อสารที่ใช้ เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ หรือการแพ้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ แต่ก็จะป็นแผลคล้ายน้ำร้อนลวกหรือคล้ายแผลไฟไหม้ โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของแผลที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมครับ