ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นจางๆที่บริเวณหนังหุ้มขององคชาติ ถ้าแน่ใจว่าทั้งตัวคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ สาเหตุอาจจะเกิดจาก 1. การที่มีการอักเสบหรือการแพ้ของผิวหนังบริเวณที่เป็น เมื่อหายแล้ว อาจจะเกิดเป็นผื่นที่สีจะจางกว่าผิวหนังบริเวณอื่น 2. การสร้างสารสีผิดปกติซึ่งอาจจะเกิดแบบชั่วคราวซึ่งจะค่อยๆหายเองได้ หรือในกรณีที่เป็นแบบถาวรก็อาจจะกลายเป็นโรคด่างขาว vitiligo แต่ดูจากรูปมไม่น่าจะเป็น vitiligo ซึ่งจะเป็นรอยด่างขาวที่มีขอบเขตตัดกับผิวธรรมดาอย่างชัดเจน และโรคด่างขาวยังไม่รู้สาเหตุ 3. เชื้อรา ซึ่งจะต้องมีการขูดผิวหนังบริเวณที่เป็นไปดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องใช้ยาเชื้อรา 4. โรคผิวหนังอื่นๆ ซึ่งอาจจะเกิดโดยที่สารสร้างสีเกิดการทำงานที่ผิดปกติชนิดแต่ถ้าในกรณีที่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ ในกรณีของคุณที่อยู๋ต่างประเทศ จะกลับเดือนหน้า ไม่น่าจะเป็นโรคติดต่อร้ายแรง สามารถกลับมาหาหมอผิวหนังต้นเดือนหน้าได้ครับ

ขอบคุณครับหมอ

ผมขอบอกอาการเพิ่มเติมนะครับ เวลาอวัยวะเพศหดตัว หนังบริเวณที่สีจางนั้นจะเหมือนเป็นขุยๆ แต่ไม่เยอะ บางครั้งก็สังเกตได้ บางครั้งก็ไม่เห็น

ขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับ

1.ผมมั่นใจว่าแฟนผมและผมไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แน่ๆ ในกรณีนี้ผมจะเป็นโรคร้ายแรงได้มั้ยครับ

2.เป็นไปได้มั้ยครับ ที่เกิดจากการแพ้ระคายเคืองธรรมดา

3.ผมอยากสอบถามคุณหมอเรื่อง Lichen sclerosus ในเว็บไทยไม่มีใครพูดถึงเลย ผมอยากทราบว่ากรณีของผมนี้มีลักษณะใกล้เคียงบ้างมั้ยครับหรือตัดเรื่องนี้ออกไปได้เลย

4.ในกรณีนี้ ผมสามารถใช้ nizoral cream ไปพลางๆก่อนได้มั้ยครับ เผื่อในกรณีที่เป็นเชื้อรา

5.ในกรณีที่ไม่ใช่เชื้อรา คุณหมอคิดว่าลักษณะรอยโรคนี้ใกล้เคียงอะไรมากที่สุดครับ

6.ลักษณะที่เห็นสามารถเกี่ยวข้องกับมะเร็งได้มั้ยครับ

รบกวนหน่อยนะครับ ผมกังวลใจมาก กว่าจะได้ไปหาหมออีกตั้งหนึ่งเดือน

ขอบคุณมากครับ

ตามที่ได้ตอบไปแล้ว อาจจะมีสาเหตุได้หลายอย่าง หลักในการตรวจวินิจฉัยแยกโรค คือ เริ่มจากประวัติ การตรวจร่างกาย โดยเฉพาะกรณีของโรคผิวหนัง ต้อใมีการดูรอยโรคที่เป็น การตรวจทางห้องแล็บประกอบ ในกรณีของคุณ ถ้าแน่ใจว่าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ทั้งคู่ ก็ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุหลักๆคือ

1. การที่มีการอักเสบหรือการแพ้ของผิวหนัง

2. การสร้างสารสีผิดปกติ

3. เชื้อรา ซึ่งจะต้องมีการขูดผิวหนังบริเวณที่เป็นไปดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องใช้ยาเชื้อรา

4. โรคผิวหนังอื่นๆ ซึ่งอาจจะรวมถึงโรค Lichen sclerosus ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับการแพ้ภูมิของตัวเอง และจะพบในผู้หญิงมากกว่าชาย สำหรับในประเทศไทย โรคนี้พบได้ไม่บ่อยครับ โดยจะต้องมีการตรวจทางแล็บเพิ่มเติม รวมทั้งการตัดชิ้นเนื้อด้วย ในเบื้องต้น แนะนำว่ายังไม่ต้องใช้ยาทาทุกชนิด เพราะอาจจะทำให้การวินิจฉัยโรคยากขึ้น เมื่อกลับมาให้หาหมอโรคผิวหนัง ระยะเวลา 1 เดือนไม่มีผลอันตรายร้ายแรงครับ