กระดานสุขภาพ

ไม่รู้เป็นอะไรครับ
Anonymous

2 สิงหาคม 2559 14:04:41 #1

ไม่รู้เป็นอะไรครับ
ต้องรักษาอย่างไรหรือใช้ยาอะไรบ้างครับ


- เป็นตั้งแต่ประมาณกลางสัปดาห์ก่อน อาบน้ำ โดนน้ำไม่รู้สึกอะไรครับ ถ้าไปแตะที่แผลก็จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ แต่ถ้าไม่ไปแตะ ใช้ชีวิตตามปกติไม่สนใจ ก็แทบไม่รู้สึกอะไรครับ
-เกิดมาเพิ่งเคยเป็นแบบนี้ครั้งแรกครับ ไม่เคยเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ใดๆมาก่อนครับ
-ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครแบบสอดใส่โดยไม่ใช่ถุงยางมาก่อน
-มีเพศสัมพันธ์ล่าสุดกับแฟนปลายเดือน พค. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง (แต่ออรัลเซ็กส์ไม่ใช้)
-เคยเที่ยวปีละ 1- 2 ครั้ง
-ปกติผมร่วงบางเล็กน้อยมา ตั้งแต่ปลายปี 55 แล้ว แต่ประมาณกลางเดือน มิย 59 ผมร่วงบางมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่ล้าน และไม่ได้เป็นหย่อมๆ ยังไม่เคยมีตุ่ม/ผื่นอะไรขึ้นตามตัว รวมทั้งมือหรือเท้าครับ ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบปกติดีครับ
ปี59 เที่ยวเมื่อตอนต้นปีครั้งนึง
ปี57 ไปเที่ยวออรัลเซ็กส์เคยไม่ใส่ถุงยางครั้งนึง
- ถ้าใช้ยา triamcinolone 1% ที่ไว้ทาในปากหรือ ใช้ normal saline ล้างทำความสะอาดร่วม , clotimazole 1% เขียนข้างกล่องว่ายาใช้ภายนอก ใช้ได้หรือเปล่าครับ


ปล.หลังจากเป็นเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ไม่กี่วันถัดมาจำเป็นต้องบริจาคเลือดให้กับคนรู้จัก เลือดจะถูกนำไปตรวจถ้ามีเชื้อทางเพศสัมพันธ์อะไร ทาง รพ. จะแจ้งผลอะไรหรือเปล่า ภายในกี่วันครับ (ถ้าไม่แจ้งอะไรแสดงว่าน่าจะไม่มีเชื้ออะไรหรือเปล่าครับ)
ขอบคุณครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

3 สิงหาคม 2559 02:14:01 #2

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 สิงหาคม 2559 10:55:51 #3

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลขนาดประมาณ 0.5 ซม.ที่บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศ จากประวัติที่ว่าเคยมีคู่นอนหรือเที่ยว ใช้ถุงยางเมื่อมีการสอดใส่แต่ถ้ามีออรัลเซ็กส์ไม่ได้ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคติตด่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าคู่นอนมีการติดเชื้ออยู่

1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์)

แนะนำหาหมอครับ ยาทาที่ถามมาเป็นยามาเฉพาะในกรณีที่แพ้หรือที่มีเชื้อรา ไม่สามารถรักษาโรคอื่นๆได้
ส่วนเรื่องผมร่วงที่ถามมา เป็นหนึ่งในอาการของซิฟิลิสระยะที่สองโดยสามารถยืนยันได้ด้วยการตรวจเลือด RPRหรือ VDRL หรือTPHA หรือ FTA ถ้าให้ผลลบ ก็แสดงว่าผมร่วงจากสาเหตุอื่น กรณีเรื่องการให้เลือดหรือการบริจาคเลือดนั้น โดยทั่วไปถ้ามีผลผิดปกติ ทางธนาคารเลือดจะมีจดหมายแจ้งให้ทราบ สำหรับกรณีที่เป็นการบริจาคให้คนรู้จักหรือญาติ คงต้องถามจากรพ.ว่าผลเป็นอย่างไร ถ้าต้องการตรวจเรื่องเอชไอวี สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ