กระดานสุขภาพ

ปลายองคชาติอักเสบครับ
Onek*****1

14 กรกฎาคม 2559 17:13:37 #1

สวัสดีครับ

อาการคือเมื่อเดือนก่อน ตรงปลายองคชาติที่เป็นสีแดง เป็นปื้นๆ สีขาวนะครับ ไปหาหมอมาก็ไม่หาย แต่พอผมหยุดยา สัก 4-5 วันกลับกลายเป็นสีแดง ตรงปากอวัยวะเพศ นะครับ
ตอนช่วงที่เป็นปื้นขาวๆ (ขาวๆบางๆ) ปัสสาวะไม่แสบไม่ขัด ปกติดีครับ   แต่ตอนนี้อักเสบแดง ปัสสาวะบางครั้งแสบ บางครั้งไม่แสบนะครับ  ถ้าเช็ดน้ำปัสสาวะให้แห้งจะไม่แสบ หรือถ้าผมกินน้ำน้อยจะแสบ  กินน้ำเยอะๆ จะไม่แสบเลยนะครับ 
จากรูปเหมือนองคชาติช้ำๆ คล้ายๆกับเหมือนกับผิวหนังแช่น้ำ แล้วจะช้ำๆ นะครับ

ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ขอปรึกษาคุณหมอ ให้คำแนะนำด้วยนะครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/oneking171-30055-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/oneking171-30055-2.jpg

อายุ: 37 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.41 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 กรกฎาคม 2559 09:42:12 #2

รูปที่ส่งมา เห็นเป็นรอยแดงๆที่ปลายท่อปัสสาวะ แต่มีขนาดเล็ก ไม่สามารถเห็นรายละเอียดได้ ขออธิบายว่าระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์คือมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน นอกจากนี้อาจจะเกิดจากการที่หูดที่ปลายท่อปัสสาวะซึ่งในกรณีของคุณ ติ่งเนื้อแดงๆดูคล้ายกับหูดเล็กๆ แนะนำหาหมอรระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ถ้าคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็น แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายมีความเสี่ยงก็มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยสรุป แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ

Onek*****1

15 กรกฎาคม 2559 14:26:30 #3

ขอบคุณครับคุณหมอ

แต่อาการผมเกิดจากการกลั้นปัสสาวะนานๆ แล้วเวลาปัสสาวะจะแสบนะครับ

แต่ผมไม่มีหนองหรือมูกขาวๆ ออกจากอวัยวะเพศเลยนะครับ  รอยแดง คล้ายกับเหมือนเวลา ง่ามนิ้วมันช้ำๆ เปื่อยนะครับ

แสบตอนที่กลั้นปัสสาวะนานๆ เวลาปัสสาวะจะแสบ แต่ถ้าผมดื่มน้ำเยอะๆ ปัสสาวะจะไม่แสบ  มันจะแดงมากตอนที่กลั้นปัสสาวะ หรือดื่มน้ำน้อยนะครับ

ถ้าวันไหนดื่มน้ำเยอะๆ และปัสสาวะปกติ มันจะไม่แดง จะเป็นสีชมพูนะครับ