กระดานสุขภาพ

อาการหลังท่อปัสสาวะติดเชื้อ มีรูปครับ
Anonymous

1 กรกฎาคม 2559 15:04:35 #1

เมื่อประมานเกือบ2เดือนที่แล้ว ผมติดเชื้อทางท่อปัสสาวะ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงมาอยู่ ตอนนั้นไปรักษาที่รพ ปัสสาวะแสบ ร้อน แต่เหมือนยังไม่มีหนองที่ชัดเจนแค่เหมือนมีออกใสๆ ตอนผมรักษาหมอไม่ได้ดูไม่ได้ตรวจเชื้อผมเลยผมแค่บอกอาการไป หมอให้ผมไปฉีดยา อาการดีขึ้นครับแต่เหมือนยังไม่หาย เลยไปคลินิก หมอทางเดินปัสสาวะให้ไปตรวจฉี่ผลออกมาคือเชื้อไม่มีแล้วครับ ที่ผมจะมาถามคือในท่อปัสสาวะยังมีเหมือนบวมๆ เหมือนหมอก้ไม่ค่อยจะให้ยาด้วย ผมถามหมอว่าเป็นอะไรหรือป่าว หมอว่ามันไม่ได้เป็นอะไร คือผมอยากให้ตรงนั้นมันยุบอ่ะ มันก้จะ 2เดือนแล้วครับ หมอช่วยดูด้วยครับ ผมกังวลว่ามันจะไม่ยุบครับไม่ทราบว่ามันเป็นอะไรหรืออันตรายหรือป่าว ปล.คือมันเคยบวมมากกว่านี้แต่เหมือนมันยุบนิดหนึ่งแต่ไม่สนิทสักทีครับเลยกังวล

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b33af-29659-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b33af-29659-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b33af-29659-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b33af-29659-4.jpg

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

1 กรกฎาคม 2559 15:17:21 #2

.
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

4 กรกฎาคม 2559 03:03:15 #3

ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น ในกรณีของคุณมีความเสี่ยงและได้รับการรักษามาแล้ว การตรวจที่แน่นอนว่ายังมีการอักเสบหรือไม่คือการใช้ใม้พันสำลีหรือลวดเล็กๆเก็ยเอาเมือกที่อยู่ที่ท่อปัสสาวะแล้วย้อมสีเพื่อดูว่ามีเม็ดเลือดขาวหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่ามีการอักเสบของท่อปัสสาวะ การตรวจปัสสาวะตามที่คุณส่งผลมาอาจจะตรวจไม่พบ ส่วนรูปที่ส่งมาน่าจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนะนำให้หาหมอที่ รพ.บางรัก ถนสาทรใต้ เป็นคลินิกกามโรคของกรมควบคุมโรค สามารถตรวจได้ว่าเป็นหนองใน หนองในเทียมหรือไม่ได้มีการติดเชื้อ