กระดานสุขภาพ

ช่วยดูให้หน่อยครับ ----มีรูป----
Anonymous

17 มิถุนายน 2559 15:33:35 #1

มีอาการคันถุงอัณฑะมา 5ปี แล้วครับ เป็นๆหายๆ เวลาทายาสเตียรอยก็จะหายคันแต่พอหยุดทายาไป ซักพักนึงก็จะมีอาการคันๆแสบๆอีก เป็นแบบนี้มา 5 ปีปล้วครับ กลัวเป็นมะเร็งผิวหนัง --เพราะเหมือนมีขี้แมงวันขึ้นมาที่ถุงอัณฑะด้วยครับ--

http://haamor.com/media/images/webboardpics/3aef9-29268-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/3aef9-29268-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/3aef9-29268-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/3aef9-29268-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/3aef9-29268-5.jpg

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 มิถุนายน 2559 09:03:27 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา ผิวหนังที่บริเวณถุงอัณฑะมีการอักเสบ แดงและหนาแบบด้านๆ สาเตุน่าจะเกิดจากการแพ้หรือการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส ทำให้มีอาการคัน เื่อเกาก็จะมีการอักเสบ บวมแดงและคันมากขึ้นก็จะเกามากขึ้นตามไปด้วย เมื่อทายากินยาแก้แพ้แก้คัน อาการก็จะดีขึ้น แต่เ ื่อสัมผัสสารที่แพ้อีก เหาอีกก็จพเป็นอีก เริ่มเป็นเรื้อรังหนังก็จะค่อยๆหนาขึ้นกลายเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดเรื้อรัง ต้องรักษาโดยการกินยาแก้แพ้แก้คัน ทายาแก้แพ้ที่มีส่วนผสมของสเตียร์รอยด์ เมื่อหายแล้วต้องระวังอย่าให้แพ้อีก ระวังอย่าใช้ของที่สงสัยว่าจะแพ้ และเมื่อแพ้มีอาการคันต้องรีบรักษา เพราะถ้าเผลอไปเกาก็จะเป็นมากขึ้น ทำให้เป็นๆหายๆ ส่วนอีกโรคที่ต้องระวังคืออาจจะมีเชื้อราร่วมด้วยหรือไม่ เพราะถ้ามีความอับชื้นก็อาจจะเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีของคุณที่เป็นมาหลายปีแล้ว แนะนำว่าควรจะหาหมอผิวหนัง รักษาอยาางต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้ดีขึ้นได้ครับ