กระดานสุขภาพ

เลือดออกทางช่องคลอด
Anonymous

25 พฤษภาคม 2559 13:11:22 #1

สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ 25 ปี ยังไม่มีลูกแต่มีแฟน ตอนมีเพศสัมพันธ์รู้สึกเจ็บที่ปากช่องคลอดภายนอกแบบชี้จุดได้ เลยตัดสินใจไปหาหมอสูติ หมอตรวจภายในและให้ยา dequalinium cloride ขนาด 10 มิลลิกรัม มาสอดทั้งหมด 6 วัน แต่ดิฉันสอดครอบ 6 วันแล้วยังไม่หายจึงไปซื้อยาทา benovate มาทาบริเวณปากช่องคลอดในระหว่างที่เหน็บยาตัวแรกไปด้วยเป็นเวลาสองวัน เช้า เย็น และอาการยังไม่ดีขึ้น จึงไปปรึกษาเภสัชและเภสัชได้จ่ายยา metronidazole มา ให้ทานตอนเย็น 3 เม็ด เช้า 2 เม็ดแล้วหยุดทาน และยา itraconazole มา ทานตอนเย็น 2 เม็ด ตอนเช้า 2 เม็ดแล้วหยุดทาน ในวันที่หยุดทานดิฉันมีเลือดออกทางช่องคลอดเป็นสีชมพูอ่อนๆ เวลาเช็ดแล้วสังเกตุเห็น ก่อนหน้าคืนที่ดิฉันจะเลือดออกดิฉันได้ทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง ถึงขั้นนอนไม่หลับ สอบถามว่าอาการของดิฉันเกิดจากการทานยามากไป สอดมากไปหรือเปล่าตะ เป็นอันตรายไหม ดิฉันควรสังเกตุอาการต่อไปไหม เครียดมาก
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.31 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

25 พฤษภาคม 2559 13:19:28 #2

ดิฉันได้คุมกำเนิดโดยการฉีดยาคุมเป็นเวลา 5 ปีค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

26 พฤษภาคม 2559 10:01:32 #3

การฉีดยาคุมเป็นเวลานานจะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาตามปกติ และอาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ เป็นลักษณะเลือดออกกระปริบกระปรอย ผิดปกติ การที่คุณมีอาการเจ็บที่ปากช่องคลอดภายนอกไม่น่าจะเกี่ยวกับการติดเชื้อภายในช่องคลอด แต่อาจจะเกิดจากความไวของะบบประสาทที่ทำงานไวเกิน จึงทำให้มีอาการเจ็บที่ปากช่องคลอด ส่วนอาการเลือดที่ออกมาผิดปกติอาจจะเป็นผลมาจากยาฉีดคุมกำเนิด การอักเสบที่ปากมดลูก หรือการติดเชื้อในช่องคลอด ถ้าเลือดสามารถหยุดไปได้เองก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าออกมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในอีกครั้ง จะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรักษาได้ถูกต้องต่อไปค่ะ