กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ สิ่งที่เกิดในอวัยวะเพศที่คับ (ชาย)
MIKA*****A

24 พฤษภาคม 2559 08:08:43 #1

คือผมได้มีเพศสัมพันกับแฟนโดยแฟนใช้ปากอมอวัยวะเพศให้และได้ใช้ลิ้นสอดใส่ ตรงรูอวัยวะ เสร็จแล้วทีนี้ก้มีเพศสัมพันกันคับ หลังจากเสร็จกิจกรรม พอตื่นนอนมาตอนเช้า อวัยวะเพศของผมมีอาการ เจ๊บ และปวดมาก ยิ่งเวลาตอนฉี่ จะรู้สึกเจ็บแบบมากๆๆเลยคับ แทบจะฉี่ไม่ได้ ผ่านมา2 วันตรงปากรูอวัยวะเพศผมเริ่มบวมๆแดงๆและเหมือนมีน้ำใสๆอยู่ตรงปากรูตลอด และมีกลิ่นเหม็นด้วยคับ ที่นี้ผมก้เลยลองกินยาแก้อักเสบดู ก้ได้แคบรรเทา พอตื่นเช้ามาก้ปวดเหมือนเดิมเลยคับ ตอนนี้ไปหาเภสัชเขาเลยแนะนำยาฆ่าเชื้อแบบกิน กับแบบทา มา ซึ่งตัวผมก็ยังไม่ทราบสาเหตแน่ชัดเลยว่าเกิดจากอะไร เลยมาถามคุณหมอก่อนคับ ผมกลุ้มใจและกังวลมากๆ ขอบคุณคับ ตอนนี้เป็นได้ปะมาน5วันแล้วคับ
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 89 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.74 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
MIKA*****A

24 พฤษภาคม 2559 08:11:31 #2

ถ้ายังไง คุณหมอ ส่งผ่านเมลได้นะคับ hackerakumazzzz@gmail.com ผมกลัวบางทีกัวไม่เหนโพสคับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 พฤษภาคม 2559 03:01:37 #3

อาการปัสสาวะแสบและมีมูกหรือหนอง แสดงว่ามีการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ ซึ่งถ้าร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีของคุณถ้าคุณมีคู่นอนหลายคนหรือคู่นอนมีความเสี่ยง ก็น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า แต่ถ้าแน่ใจว่าคุณและแฟนต่างก็ไม่ได้มีความเสี่ยง คือไม่ได้มีคู่นอนคนอื่นหรือมีแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบก็อาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่น การร่วมเพศที่รุนแรงหรือบ่อยหรือนานเกินไป หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ถ้าคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายมีความเสี่ยงก็มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ