กระดานสุขภาพ

มีแผลตรงอวัยวะเจ็บ แสบช่วยหน่อยครับ
Vesp*****0

21 พฤษภาคม 2559 17:52:29 #1

ขอปรึกษาหมอหน่อยครับเริ่มจากย้อนไปสามสี่ปีก่อนผมเป็นโรคหนองในเข้าการรักษาจนหนองหายแล้วไม่มีหนองไหลออกมาแต่มีอากาศเจ็บปวดแสบตรงอวัยวะมาเรื่อยๆแต่มาสองสามอาทิตย์สงเกตมีแผลสีแดงตรงข้อคันอวัยวะและตอนนั่งในห้องน้ำสงเกตมีน้ำสีขาวไหลออกมาตรงปลายท่อปัสวะครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/vespa90-28544-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/vespa90-28544-2.jpg

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 พฤษภาคม 2559 03:38:33 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลตื้นๆหลายแผล แต่ไม่ค่อยชัด ถ้าคุณมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน

โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่นมีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง แต่ถ้าๆม่มีความเสี่ยง ก็อาจจะเกิดจากการแพ้หรือการะคายเคืองต่อสารที่ใช้หรือสัมผัสเช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอ ส่วนเรื่องมีน้ำสีขาวออกจากท่อปัสสาวะ อาจจะเป็นอการปกติที่เกิดจากการที่มีการกระตุ้นต่อมลูกหมากในขณะที่ถ่ายอุจจาระ จึงมีการขับเมือกออกมาจากต่อมลูกหมาก แต่ถ้ามีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วยและมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะติดเชื้อหนองในหรือหนองในเทียม หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า สรุป ถ้ามีพฤติกกรมเสี่ยง ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อ แนะนำหาหมอครับ