กระดานสุขภาพ

เกิดแผลบนหนังหุ้มองคชาต รบกวนสอบถามครับ !!!
Miri*****a

30 เมษายน 2559 09:55:58 #1

อาการคือ มีคันเป็นตุ่มไม่ใส แล้วเผลอไปเกาจะเกิดแผลบริเวรตรงกลางของตุ่ม มีหนอง ไม่ลุกลาม เป็น อาทิตย์นึงแล้วครับ เลยสงสัยครับว่าเกิดจากอะไร มีแนวทางรักษาอย่างไรบ้างครับ 

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.46 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 พฤษภาคม 2559 14:23:18 #2

ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงหรืออาจจะเป็นแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์)
แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง คือใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจากการแพ้ การระคายเคืองต่อสารที่ใช้ หรือการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทั่วไปคล้ายกับการเป็นสิว การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยสรุป แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆพร้อมให้ประวัติทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วยครับ