กระดานสุขภาพ

แสบอวัยวะเพศตอนฉี่
Anonymous

19 เมษายน 2559 17:01:15 #1

คือเมื่อประมาณวันที่13ที่ผ่านมาผมมีอะไรกับแฟนตามปกติแต่ว่ารู้สึกแสบๆที่อวัยวะเพศพอสังเกตุดูปรากฏว่าเป็นแผลถลอกที่ข้างๆ หลังจากนั้นอีก1วันรู้สึกแสบๆคันๆข้างในท่อปัสวะ พอถัดมาอีกวันเวลาฉี่จะรู้สึกแสบมาก เลยไปร้านขายยาได้ยา ofloxin 200mg มาทาน. ตอนนี้ทานได้สามวันแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้นเลยครับยังแสบตอนฉี่อยู่ ตอนนี้กังวลมากครับไม่รู้ว่าจะเป็นอาการของหนองในหรือเปล่าครับ แต่ก็ไม่มีน้ำหนองไหลออกมานะครับ ผมต้องทำยังไงบ้างครับเพราะตอนนี้แทบไม่อยากจะฉี่เลยครับแสบมากๆ รบกวนขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ
อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 เมษายน 2559 11:59:09 #2

ถ้าทั้งตัวคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือไม่มีได้มีคู่นอนคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่น่าจะเป็นโรคติดต่อ อาการที่เกิดขึ้นคือแผลและปัสสาวะแสบ อาจจะเกิดจากการที่มีการเสียดสีระหว่างการร่วมเพศ หรือถ้ามีประวัติว่าเคยเป็นเริม ก็อาจจะเป็นแผลเริมจะเป็นตุ่มน้ำใสๆแล้วแตกเป็นแผล หรืออาจจะเป็นแผลที่เกิดจากการแพ้ยา เช่นยาชุด ยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ เป็นต้น แต่ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ได้ใช้ถุงยาง ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ ที่พบบ่อยคือแผลเริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ส่วนอาการปัสสาวะแสบ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือเที่ยวผู้หญิง ไม่ใส่ถุงยางอนามัย มักเกิดจากโรคหนองในแท้และหนองในเทียม ซึ่งไม่น่าจะหายได้เอง ต้องมีการรักษาด้วยยาแก้อักเสบ อธิบายเพิ่มเติมว่า หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ หนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า โดยสรุป ขึ้นกับความเสี่ยงและลักษณะของแผล แนะนำหาหมอครับ