กระดานสุขภาพ

แบบนี้ท้องไหมคะ ถ้าไม่ใช้มันคืออาการของโรคอะไร
Anonymous

9 เมษายน 2559 16:54:04 #1

สวัสดีค่ะหนูอายุ21ปี ปกติประจำเดือนจะมาทุกๆ30วันเมื่อเดือนกุมภามาวันที่10 มีนามาวันที่11หมดวันที่15ค่ะหนูไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยแต่มีแฟนค่ะแฟนก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์  วันที่16มีนาแฟนมาหาตอนนั้นยังมีประจำเดือนแต่สีน้ำตาลๆใกล้จะหมดค่ะหนูกับแฟนไม่ได้มีเพศสัมพันกันแบบสอดใส่แฟนใส่กางเกงสามชั้นหนูก็สามชั้นกอดจูบปกติแฟนก็มีออรัลให้แต่เขาไม่ได้เอาของเขาออกมาหนูไม่เคยเห็นเลยคะของเขาอยู่ในกางเกงน้องเราไม่ได้สัมผัสกันเลยค่ะและวันนี้เขาก็ไม่ได้มีอสุจิออกมาเพราะไม่ได้สำเร็จความใคร่ และมาอีกวันนึง วันที่30แฟนก็มาหาก็ทำเหมือนเคยแต่ไม่มีเพศสัมพันกันไม่มีการสอดใส่อวัยวเพศไม่สัมผัสกันเลยเพราะเราสัญญาว่าจะรอจนกว่าจะพร้อมน้องเขาก็อยู่ในกางเกง3ชั้นส่วนเราก็ใส่กางเกงจะมีตอนถูๆกันบ้างเราถอดแต่เขายังใส่อยู่3ชั้นเขาใช้นิ้วช่วยหนูตรงเนินไม่ได้เอานิ้วสอดไปแล้วนิ้วเขาก็ไม่ได้เปื้อนอสุจิ จากนั้นพอหนูเสร็จเขาก็ช้วยตัวเองโดยที่หนูไม่ได้มองหรือช่วยอะไรแล้วเขาก็ไปล้างมือแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรจะมีการถูไถบ้างแต่เราใส่กางเกงทั้งคู่ค่ะอวัยวะเพศเราไม่เคยสัมผัสกันเลย มีกางเกงมีผ้าห่มด้วยค่ะอาจจะฟังตลกนะค่ะ เพราะหนูกลัวและไม่เคยกันทั้งคู่หนูอยากทราบว่าแบบนี้มีโอกาสท้องไหมค่ะ พอเดือนเมษาหนูกินยาสตรีค่ะ เพราะเพื่อนแนะนำว่าช่วยปรับฮอร์โมน หนูเป็นคนสิวเยอะค่ะ เวลามีประจำเดือนก็จะปวดท้องมากๆเลยซื้อกิน จริงๆหนูเคยกินแล้วรอบนึงแต่รู้สึกว่ากินแล้วเสียดท้องน้อยซ้ายตลอด เป็นระยะๆ จี๊ดๆ เลยเลิกกิน อันนี้หนูไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่ตอนหนูเป็นประจำเดือนแรกๆประมานประถมหนูเคยเป็นทั้งเดือนเลือดไหลตลอด เคยไปหาหมอ หมอบอกว่าผนังมดลูกหนา เลยให้ยามากิน ถ้าไม่หายต้องขูดมดลูก แต่ก็หายค่ะ ไม่ได้ขูด จนถึงตอนนี้ก็ปกติดีค่ะ จะมีก็แต่เวลาเป็นจะเป็นเยอะ จะปวดท้องมากๆ คือทั้งหมดทั้งมวบที่เล่ามา คือหนูมีความกังวลว่า หนูจะท้องไหมค่ะ อสุจิจะเข้าไปในน้องเราได้ไหม เพราะไม่ได้สอดใส่ ไม่ได้สัมผัส แต่อาการตอนนี้(9เมษา) ซึ่งถ้าตามกำหนด ประจำเดือนจะมาพรุ่งนี้ (10เมษา)อาการก็มีปวดท้องประจำเดือนตามปกติ แต่จะมีเสียดท้องน้อยซ้าย เจ็บหน้าอก และก้มีบางอาการที่คล้ายๆคนท้อง หนูไม่รู้ว่าเพราะหนูหมกมุ่นอ่านมากไปหรือเปล่านะคะ ก็จะมีจุกๆที่คอ แต่ก็เป็นแปปเดียว มีเสียดๆสลับขวาซ้าย แต่ส่วนใหญ่จะเสียดที่ซ้ายเหมือนที่เคยเป็นตอนกินยาสตรี (ตอนนี้หยุดกินยาสตรีแล้วค่ะ) หนูก็มีอาการก่อนเป็นประจำเดือนตามปกติ จะมีหน้ามืดเป็นปกติอยู่แล้วค่ะเป็นทุกเดือนเพราะเป็นคนความดั้นค่อนข้างต่ำ หิว มีปวดท้อง ตอนนี้ท้องบวม แน่น ไม่ถ่าย มีความต้องการทางเพศ แต่วันนี้เหมือนประจำเดือนจะมาแต่หนูคิดว่าไม่น่าใช่เพราะเป็นเลือดผสมมากัยตกขาวใสๆอะคะ มานิดเดียว ไม่มาก หนูก็ไปอ่านมาเขาบอกว่าเป็นอาการของตัวอ่อนฝังตัว  คือตอนนี้หนูไม่รู้เลยว่าจะเป็นอะไร หนูกลัวมากๆค่ะ 

ขอบคุณมากๆนะคะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

9 เมษายน 2559 16:56:37 #2

เพิ่มเติมนะคะ  เดือนที่แล้วหนูหนัก44-45แต่พอตอนนี้เหลือ42กว่าๅ สุขภาพมีส่วนด้วยไหมคะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 เมษายน 2559 07:38:39 #3

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ ซึ่งในความคิดเห็นของหมอ หมอขอกล่าวโดยรวมๆนะครับ ในเรื่องกลุ่มยาที่กล่าวมานั้น ในตัวยาประเภทนี้ เป็นยาที่มีส่วนประกอบของสมุนไพร ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์นั้นอาจคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งจะทำหน้าที่กระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูก อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นได้ แต่จะไม่มีฮอร์โมนที่ทำให้เยื่อบุหลุดลอกสลายตัวออกมาได้ ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ อาจทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก หรือ มีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ โดยในความเห็นของหมอ ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกตินั้น เกิดจากอะไร

ส่วนอาการปวดท้องนั้น หากเป็นอาการปวดประจำเดือน ปกติแล้วอาการปวดนี้จะมีได้อยู่แล้วในผู้หญิงทุกคนในทุกๆรอบเดือนครับ แต่อาการนี้จะไม่ปวดมาจนทำให้ทำงานหรือดำเนิดชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ย่ิงหากเดิมไม่เคยปวดเช่นนี้มาก่อน และ หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ประจำเดือนมามากทั้งปริมาณและจำนวนวันหากเทียบจากเดิมที่เคยเป็น หรือมีอาการ กะปริดประปรอย อ่อนเพลีย ใช้ยาแก้ปวดมาก หรือ ปวดลักษณะอื่นๆที่ไม่ได้เป็นลักษณะของประจำเดือน เช่น ปวดท้องน้อยด้านข้าง ปวดช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือน ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุก่อนครับ