กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศแดงแล้วมีอาการคันครับอยากทราบว่าผมจะเป็นโรคอะไรไหมครับ
Yark*****o

30 มีนาคม 2559 12:23:57 #1

เป็นหลังจากมีเพศสัมพันผ่านไป12วันแล้วครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/yarkroo-27675-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/yarkroo-27675-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/yarkroo-27675-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/yarkroo-27675-4.jpg

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 82 กก. ส่วนสูง: 179ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Yark*****o

30 มีนาคม 2559 12:24:37 #2

รูปตามลิ้งเลยนะครับคุณหมอ

Yark*****o

30 มีนาคม 2559 12:25:20 #3

ไปตรวจเลือดมาแล้วนะครับไม่ได้เป็นHIV

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 เมษายน 2559 13:41:06 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแดงๆที่ส่วนหัวและบริเวณหนังหุ้ม รวมทั้งมีลักษณะของแผลตื้นๆ แต่เนื่องจากรูปไม่ค่อยชัด คงต้องเริมที่ประวัติว่า ถ้ามความเสี่ยง คือ มีคู่นอนหลายคน ไปเที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยางอนามัย

โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศ เช่นไม่เคยเที่ยวหรือยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือเคยแต้ใช้ถุงยางทุกตรั้ง อาการที่ว่าน่าจะมาจากการที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นเนื่องจากหนังหุ้มยังไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดหรือรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัวหรือรูดลงไม่ได้สุด จึงทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง

แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้ โดยสรุปขึ้นกับลักษณะของผื่นที่เป็นและพฤติกรรม แนะนำหาหมอครับ ส่วนการตรวจเลือด แนะนำตรวจซ้ำที่ 3 เดือนหลังเสี่ยง โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ