กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการคุมกำเนิดค่ะ
Kim2*****7

21 มีนาคม 2559 13:35:59 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันอายุ 23 ปีกว่าๆ มีความสนใจเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแบบห่วงอนามัย

แต่เคยโทรไปสอบถามทาง รพ ต่างๆ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำ ด้วยเหตุผลว่าดิฉันไม่เคยมีบุตร

และแนะนำให้มีการคุมกำเนิดแบบทานยา แต่เนื่องจากกิจวัตรประจำวัน ไม่สะดวกต่อการกินยาให้ตรงเวลา

(1.เป็นคนขี้ลืมมาก 2.ไม่ค่อยชอบทานยา 3.ทำงานและนอนไม่เป็นเวลาไม่สะดวกในการทานยาตรงเวลา)

ดิฉันจึงสนใจการคุมกำเนิดอีกแบบคือ   แบบแผ่นแปะ 

แต่ก็ยังคงไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ ว่ามันจะมีผลป้องกันได้มากน้อยเพียงใด( ปกติใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งอยู่แล้ว)

 

 

ส่วนอีกคำถามนะคะ มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดตอน 6 มีนาคมที่ผ่านมา (ประจำเดือนมาช่วง 19 กุมภา)

แต่ได้มีการใส่ถุงยางอนามัย และในตอนท้ายเกิดถุงยางเลื่อนหลุด ตอนเสร็จกิจจึงเกิดความไม่มั่นใจ

เลยทานยาคุมฉุกเฉินไปเรียบร้อย ตามที่ฉลากบอก และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยนับจากวันนั้น

วันที่ 19 มีนาที่ผ่านมา(นับจากมีเพศสัมพันธ์ 2 อาทิตย์) ซึ่งใกล้เคียงกำวันที่ประจำเดือนรอบนี้จะมา

(คำนวณไว้ว่าน่าจะมาประมาณ 21-23)

ได้มีเลือดสีน้ำตาลเข้มมาครั้งแรกพอประมาณ พอผ่านไปครึ่งวันเลือดก็กลายเป็นสีแดงสดปกติ มีลักษณะเหนียวข้น

คล้ายกับประจำเดือนปกติมีปริมาณตามปกติ เปลี่ยนประมาณ 3-4แผ่น

แต่วันนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังมีอยู่แต่ออกมาเพียงเล็กน้อย (เปลี่ยนแค่ 2 แผ่น)ไม่มากมายเหมือนใกล้จะหมดแล้ว

(ปกติเป็นคนประจำเดือนมาน้อยมากอยู่แล้ว ไ่ม่เคยมาเกิน 3 วันตั้งแต่เป็นประจำเดือนครั้งแรก

เคยจะไปหาหมอปรึกษาเรื่องนี้แต่ยังไม่เคยได้ไป)

 

อยากทราบว่า เลือดที่ออกมาในครั้งนี้ นับเป็นประจำเดือนเลยใช่มั้ยคะ ?

เพราะจะได้เริ่มนับวันและเริมการแปะยาคุมกำเนิดเลยค่ะ

อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.51 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 มีนาคม 2559 14:34:37 #2

ประการแรกนั้น เรื่องการคุมกำเนิดนั้น ซึ่งการจะเลือกใช้การคุมแบบใดนั้น ในความเห็นของหมอคิดว่า สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่ต้องการคุมต้องการแบบใดครับ เพราะจะได้เกิดความสนใจและใช้วิธีนั้นได้อย่างดี ซึ่งการใส่ห่วงอนามัยนั้น หมอคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ เนื่องจาก วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด ดมยาสลบ ไม่เจ็บ สามารถทำให้หลังประจำเดือนหมดและมีอายุใช้งานประมาณ 3-5 ปี เมื่อใดที่ต้องการจะตั้งครรภ์ ก็เพียงแค่เอาห่วงออกเท่านั้น ไม่มีฮอร์โมน ทำให้ไม่มีผลข้างเคียง เช่น น้ำหนักขึ้น เลือดประจำเดือนออกกะปริดกะปรอย หรือมีฝ่าครับ เพียงอาจต้องมีการตรวจสวยห่วงทุกเดือนด้วยตนเอง และ มาตรวจโดยแพทย์ทุกๆปีเท่านั้นครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ค่อนข้างเหมาะสมนะครับ หากต้องการคุมประมาณ 3 ปีขึ้นไป ส่วนยาคุมกำเนิดแบบแปะผิวหนังนั้น เป็นการคุมกำเนิดโดยใช้ยาฮอร์โมนที่เป็นแผ่นแปะ ที่ประกอบด้วยยาฮอร์โมน 2 ชนิด ซึ่งกลไกหลัก คือ ยาจะมีผลยับยั้ง การตกไข่เช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรับประทาน หรือชนิดฉีด เพราะเป็นยาฮอร์โมนจัดอยู่ในประเภทเดียวกัน โอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ จากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้นั้น น้อยกว่า 1% โดยวิธีนี้อาจเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรับประทาน โดยช่วงเวลาที่ต้องการคุมกำเนิดที่เหมาะสมประมาณ 5 ปี เพราะหากต้องการคุมกำเนิดนานมากกว่านี้ ก็ควรใช้การคุม กำเนิดวิธีอื่นจะเหมาะสมกว่า โดยสามารถศึกษาข้อมูลได้จาก http://haamor.com/th/ยาคุมกำเนิดชนิดแปะ/ ครับ

หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศ ถือว่า เป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพครับ ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ สบายใจได้ ส่วนหากไม่แน่ใจว่าจะหลุดระหว่างสอดใส่หรือไม่นั้น ก็อาจทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ครับ ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงของยาได้ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ และ ระหว่างนี้ หากยังไม่แน่ใจว่า เลือดที่ออกเกิดจากประจำเดือนหรือเป็นเลือดผิดปกติ ก็ยังไม่ควรทานยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนไปในช่วงนี้ครับ เพราะจะทำให้สับสนได้มากหากเลือดประจำเดือนผิดปกติหรือไม่มา เช่นในกรณีนี้ ดังนั้น หากในระหว่างนี้ มีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ ส่วนเรื่องยาคุมกำเนิดนั้น หากตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะแล้วปกติหมอแนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดโดยเร่ิมแผงใหม่ได้เลยครับ และ ให้สังเกตประจำเดือนอีกครั้ง ซึ่งควรจะมาภายใน 7 วันหลังยาเม็ดสุดท้ายครับ

เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้