กระดานสุขภาพ

มีอาการปวดท้องน้อยหลังจากกินยาคุมฉุกเฉิน
Anonymous

1 มีนาคม 2559 23:48:49 #1

ติประจำเดือนจะมาค่อนข้างตรงทุกเดือน เช่น 11ม.ค.59 และ 12 ก.พ.59 วันที่26 ก.พ.59 พึ่งกลับมาจากต่างจังหวัด และมี พสพ.กับแฟน กินยาคุมฉุกเฉินทันที1เม็ด เวลา 8 PM. จากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์ต่ออีกครั้งหนึ่ง ต่อมาวันที่27ก.พ.59 เวลา 6 AM. ก็ทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่2 จากนั้นเวลา 1 PM. ในวันที่ทานเม็ดที่2 ก็มี พสพ.อีกครั้ง ทุกครั้งหลั่งข้างในค่ะ มาวันที่28ก.พ59 เริ่มมีอาการปวดท้องน้อยข้างซ้ายค่ะ ปวดคล้ายๆกับตอนจะมีประจำเดือน แต่เบาบางกว่ามากค่ะ ทานยา PONSTAN 500  ไป4เม็ดโดยเว้นระยะ ก็ไม่หายค่ะ จนถึงวันที่ 2ก.พ.59 ก็ยังไม่หายปวด และรู้สึกร่างกายมีอุณภูมิสูงขึ้น # จึงอยากทราบว่า 1.อาการปวดท้องน้อยข้างซ้ายเป็นผลเนื่องจากทานยาคุมรึเปล่าคะ? 2.มีโอกาสตั้งครรภ์มากน้อยเท่าไหน ประมาณกี่%คะ? 3.จะสามารถเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้ในวันไหนคะ?
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 มีนาคม 2559 15:55:30 #2

เรียน คุณ 65f18,

ก่อนตอบคำถามของคุณ ขออนุญาตให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

- ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์เมื่อไม่สามารถใช้การคุมกำเนิดตามปกติได้ ได้แก่ เมื่อถูกข่มขืน หรือ เมื่อถุงยางอนามัยฉีกขาด รั่วซึม (ซึ่งหากใช้อย่างถูกต้อง เกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ)

- ไม่แนะนำให้ใช้แทนการคุมกำเนิดปกติ เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนเพศสูงเมื่อเทียบกับยาคุมกำเนิดปกติ คือ 1500 ไมโครกรัม (ชนิดปกติประมาณ 50-75 ไมโครกรัม) และมีอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูง คือ
8-15 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับชนิดปกติ คือ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์

- วิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง มี 2 แบบ คือ

1. รับประทานยา 1 เม็ด ภายใน 48-72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และอีก 1 เม็ด 12 ชั่วโมงภายหลังจากรับประทานยาเม็ดแรก วิธีนี้มีข้อดี คือ อาการไม่พึงประสงค์ด้านคลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด ค่อนข้างน้อย และ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อีกภายหลังรับประทานยาเม็ดแรก แต่ยังไม่ถึงเวลารับประทานยาเม็ดที่สอง แต่มีข้อเสีย คืออาจลืมรับประทานยา เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

2. รับประทานยาพร้อมกัน 2 เม็ด ภายหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
ข้อดีคือ ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมรับประทานยา แต่ข้อเสีย คือมักมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่่นไส้ อาเจียนมากกว่าแบบแรก ทั้ง 2 วิธีนี้ เมื่อรับประทานยาไปครบแล้ว ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยแทน

- อาการไม่พึงประสงค์ที่พบ - คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด เวียนศีรษะ ประจำเดือนผิดปกติ เลือดออกกะปริบกะปรอย

- ข้อควรระวัง - ห้ามรับประทานยาเกิน 2 กล่องต่อเดือน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเสียชีวิต จากการตกเลือดภายในช่องท้อง เหตุจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก

แต่จากข้อมูลการศึกษา พบว่าสตรีที่ได้รับประทานยามากเกินกว่า "3 ครั้ง ตลอดชีวิต" จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่่าง ๆมากกว่าสตรีที่ไม่เคยได้รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน หรือ สตรีที่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติ ที่พบได้ คือ มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก/รังไข่ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น

กลับมาที่คำถามของคุณ

1. อาการปวดท้อง สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ร่วมกับการได้รับการกระทบกระเทือนเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเกิดภาวะกระทบกระเทือน อาจส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้

2. มีโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ เนื่องจากคุณมีเพศสัมพันธ์ภายหลังจากรับประทานยาเม็ดที่สองครบแล้ว
แต่เปอร์เซ็นต์เท่าใดคงตอบได้ยาก น่าจะใกล้เคียงกับการไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด คือ ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์

3. หลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไป 5-7 วัน อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด คล้ายประจำเดือน แต่ไม่ใช่ประจำเดือนปกติ โดยประจำเดือนมักมาล่าช้ากว่าปกติ 7-14 วัน แต่หากเลยกำหนดที่จะมีประจำเดือนไปแล้ว 2 สัปดาห์ ยังไม่มีประจำเดือน แนะนำให้ซื้อชุดอุปกรณ์มาตรวจการตั้งครรภ์

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraceptive pill) รศ.ดร.นพ.บัณฑิต ชุมวรฐายี ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น