กระดานสุขภาพ

ผลข้างเคียงจากการหยุดยาคุม
Anonymous

4 กุมภาพันธ์ 2559 07:40:48 #1

ทานยามาได้1ปี7เดือน ทานจนหมดแผงสุดท้าย ตัดสินใจหยุด เพราะน้ำหนักตัวเพิ่มมาหลายกิโล หยุดยาวันที่17มค. มีพสพ.(แบบป้องกัน) วันที่27-28มค. วันที่ไข่ตก29มค. (ไม่มีพสพ.จนวันนี้ 4กพ.) แต่ช่วงวันที่ 1-3กพ. มีเลือดสีเข้มๆ พร้อมกับเยื่ออะไรซักอย่างเวลาเข้าห้องน้ำ เลยใส่แผ่นอนามัย ก็มีเลือดติดอยู่3วัน วันนี้4กพ. ไม่มีเลือดซึมแผ่นอนามัยแล้ว อยากทราบว่า เป็นเลือดกระปริดกระปรอยหลังจากหยุดยาคุม หรือเป็นเลือดล้างหน้าเด็กคะ? อีก8วัน ประจำเดือนรอบต่อไปกำลังจะมา จะทำการตรวจตั้งครรภ์ได้เลยมั๊ยคะ? หรือต้องรอดูว่าปจด. รอบที่กำลังจะถึงมาหรือไม่มาก่อน ขอบคุณค่ะ
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 160 กก. ส่วนสูง: 74ซม. ดัชนีมวลกาย : 292.18 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

20 กุมภาพันธ์ 2559 06:55:49 #2

คำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสวะในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์จากวันที่ควรจะมา หรือ ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้ ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น เป็นการตรวจฮอร์โมน hCG ที่มีอยู่ในร่างกายที่ขับออกทางปัสสาวะครับ ซึ่งจะตรวจพบได้เร็วมาก คือ มีความแม่นยำสูงและไวมาก และ จะไม่ต่างกับการตรวจระดับในเลือดครับ ซึ่งการตรวจในเลือดจะมีประโยชน์ในบางกรณีเช่น ช่วยวินิฉัยภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ช่วยวินิฉัยภาวะแท้งค้าง และ ประเมินการตั้งครรภ์ในการทำเด็กหลอดแก้วเป็นต้นครับ ดังนั้น การตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะก็เพียงพอที่จะวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้แล้วครับ

หากที่กล่าวมาในการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีการป้องกัน หมอคิดว่าน่าจะเป็นการการใช้ถุงยางอนามัย หากใช้อย่างถูกวิธี สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศ ถือว่า เป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพครับ ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ สบายใจได้ โดบไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ