กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มา แต่ต้องเริ่มทานยาคุม
Anonymous

31 มกราคม 2559 16:25:42 #1

เคยทานยาคุมกำเนิดค่ะ ทานมาได้ประมาณ 3 ปี เลยหยุดไป หยุดได้ 3 เดือนแต่ประจำเดือนไม่มาเลยค่ะ ตลอด 3 เดือน เลยเริ่มกินยาเมื่อวันที่ 3 มกราค่ะ แล้วมาลืมกินวันที่ 18 มกรา (ยาเม็ดที่ 15) กินช้ากว่าเวลาปกติไป 13 ชม.ค่ะ

พอวันที่ 21 มีอะไรกับแฟนค่ะ ไม่ได้ใส่ถุง แต่หลั่งข้างนอกค่ะ

 วันที่ 26 มกรา ประจำเดือนมาค่ะ 

ยังกินยาตามปกติ และเริ่มกินยาแผงใหม่เมื่อวันที่ 31 มกราค่ะ

 

อยากถามว่า ที่กินยาช้าไป 13 ชม. มีโอกาสทำให้ท้องได้มากน้อยแค่ไหนคะ

แล้วการเริ่มกินยาที่ไม่ตรงกับวันแรกที่มีประจำเดือนมีผลอะไรกับการคุมกำเนิดมั้ยคะ

สังเกตตัวเองว่า ถ้าช่วงไหนหยุดกินยาประจำเดือนจะขาดไปเลยค่ะ มีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ ถ้าอยากให้ประจำเดือนมาปกติ

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

20 กุมภาพันธ์ 2559 06:46:29 #2

จากประวัติที่บอกมาคุณน่าจะมีการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น เป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่หรือ PCOS จึงทำให้รอบเดือนมาไม่ปกติ เพราะไข่ไม่ตกตามปกติ การทานยาคุมกำเนิดจะช่วยในการรักษาภาวะดังกล่าวได้ การทานยาจะต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ลืมทานยา เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ และเสี่ยงต่อการตัง้ครรภ์ได้เช่นกัน แต่คุณมีเพศสัมพันธ์วันที่ 21 มค และมีรอบเดือนมาเมื่อ 26 มค จึงไม่ตั้งครรภ์แน่นอน การทานยาสามารถทานได้ไม่เกินวันที่ 5 ของรอบเดือน นับตั้งแต่วันที่มีรอบเดือนมาวันแรก คุณมีรอบเดือนมาเมื่อ 26 มค จึงสามารถทานยาได้ตั้งแต่ 26 มค -30 มค การทานยาช้าไปเพียง 1 วันจึงไม่น่าจะมีผลมาก คุณควรไปพบแพทย์เพือ่รับการตรวจวินิจฉัยภาวะ PCOS หรือกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่โดยการตรวจอัลตราซาวด์ จะได้รับคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้องต่อไป ไม่มีอันตราย สามารถรักษาได้โดยการทานยาเม็ดคุมกำเนิดหรือใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนค่ะ