กระดานสุขภาพ

เป็นรอยถลอกบริเวณปลายอวัยวะเพศครับ
Dest*****6

6 มกราคม 2559 07:44:05 #1

สืบเนื่องจากผมมีเพศสัมพันธุ์กับแฟนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยสวมถุงยางอนามัย แต่ก่อนที่จะสวมถุงยางอนามัย ผมใช้อวัยวะเพศถูกับอวัยวะเพศของแฟนในขณะที่เธอยังสวมกางเกงในอยู่ ผมก็ไม่ได้สังเกตอะไรแตรู้สึกเจ็บนิดๆเลยบอกเธอพอเธอก็ทำออรัลเซ็กให้ผมนิดนึงผมก็จึงสวมถุงยางอนามัยแล้วสอดใส่ตามปกติ พอวันต่อมาผมอาบน้ำสังเกตเห็นรอยถลอกแดงๆไม่ค่อยชัดมาก จางๆ ไม่เจ็บ ผ่านมาสักสามสัปดาห์รอยถลอกเด่นชัดขึ้นไม่นูน ไม่เจ็บ ไม่มีหนอง แต่เป็นรอยถลอกแดงๆที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นครับ เป็นไปได้ไหมว่าเป็นแผลที่เกิดจาการถูอวัยวะเพศ หรือเป็นแผลกามโรคครับ 

 
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.76 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Dest*****6

6 มกราคม 2559 07:45:09 #2

แล้วต้องรักษาอย่างไรครับ หรือรอยถลอกจะหายเอง
Dest*****6

7 มกราคม 2559 10:06:52 #3

รูปครับ

http://upic.me/show/57600734
Dest*****6

7 มกราคม 2559 10:07:47 #4

http://upic.me/show/57600734
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มกราคม 2559 14:18:59 #5

ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองหรือการเสียดสี ซึ่งถ้าไม่ได้มีการอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ก็น่าจะหายใน 1-2 อาทิตย์ ในกรณีของคุณที่เป็นมานานกว่า 3 อาทิตย์แล้วยังไม่หาย อาจจะเป็นโรคผิวหนังอื่นๆหรอมีการอักเสบเพิ่มเติม อาจจะต้องหาหมอ โดยเฉพาะถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เพราะการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็สามารถที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยงมาก่อน โรคที่พบบ่อยคือเริม ซึ่งจะเป็นแผลที่เริ่มจากตุ่มน้ำใสๆ แต่ถ้าไม่เป็นแผล ก็ไม่ใช่เริม สรุป แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมครับ

นพ.อนุพงศ์
Dest*****6

8 มกราคม 2559 01:46:46 #6

ไปหาหมอมาแล้วครับ หมอบอกว่าเป็นอาการอักเสบธรรมดาครับ

แต่หมอจัดยาให้ 2 ตัว คือ NL กับ NL 400 ครับ เป็นยาอะไรครับหมอ 

 
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 กุมภาพันธ์ 2559 13:53:43 #7

ไม่ทราบครับ เป็นยากินหรือยาทา ถ้าถ่ายรูปยามาให้ดู ก็อาจจะตอบได้ หรือไม่ก็ถามหมอที่รักษาได้เลยครับ